นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า วันที่ 16 พ.ค. 2566 กทท.ครบรอบสถาปนา 72 ปี ซึ่ง กทท.มุ่งนโยบายการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ในการเป็นประตูการค้าหลักและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศและเป็นท่าเรือชั้นนำของโลก โดยจะมีการให้บริการด้านโลจิสติกส์และบริหารจัดการท่าเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ท่าเรือสีเขียว เพื่อพัฒนาท่าเรือสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งขณะนี้ท่าเรือกรุงเทพได้มีการนำรถยกไฟฟ้า (Electric Forklift) จำนวนหนึ่งมาใช้ปฏิบัติงาน
โดยมียุทธศาสตร์นำร่องพัฒนา 3T คือ
1. การลดปัญหาการจราจรติดขัด (Traffic) ในท่าเรือ
2. การสนับสนุนธุรกิจการขนส่งสินค้าถ่ายลำ (Transshipment) ซึ่งปี 2565 พบว่ามีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง
สำหรับโครงการต่างๆ ที่ยังสานต่ออีกหลายโครงการ ได้แก่ การจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ การขับเคลื่อนพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ในจังหวัดขอนแก่นและนครราชสีมา เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงโครงข่ายโลจิสติกส์ของประเทศ การศึกษาโมเดล Super Port การร่วมมือกับท่าเรือเอกชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการพัฒนา Land Bridge เชื่อมสองฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามันที่จังหวัดระนองและชุมพรให้เป็นรูปธรรม
โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3
ในส่วนที่ 1 ส่วนงานก่อสร้างทางทะเล ได้ทำการปรับแผนการปฏิบัติงานเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ส่วนที่ 2 งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการประกวดราคาอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ยื่นข้อเสนอผ่านคุณสมบัติเพียงรายเดียว คาดว่าจะสามารถได้ผู้รับจ้างภายในเดือนกันยายนนี้
Cr: mgronline