“สรรพากร” เริ่มนำระบบเอไอสุ่มตรวจสอบผู้มีรายได้ต้องเสียภาษี โดยเฉพาะการค้าขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกของผู้เสียภาษี ป้องกันการหลบเลี่ยงการเสียภาษี “ลวรณ” ย้ำจะพยายามทำเรื่องเสียภาษีให้เป็นเรื่องง่าย หากมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียภาษี   นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ในหลายประเทศได้นำระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มาช่วยตรวจสอบระบบการชำระภาษีของผู้มีหน้าที่เสียภาษีทั้งหมด รวมถึงประเทศไทย ซึ่งได้นำเอไอมาทดลองการตรวจสอบการชำระภาษีผู้มีหน้าที่เสียภาษีทุกคน โดยเฉพาะตรวจสอบจากการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆในการค้าขาย ซึ่งจะใช้วิธีการสุ่มตรวจว่าผู้ที่ทำการค้าขายผ่านแพลต ฟอร์มออนไลน์นั้น ได้ชำระภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่   ทั้งนี้ กรมสรรพากรใช้ระบบออนไลน์เพื่อเปิดให้ผู้เสียภาษีทำการชำระภาษีของบุคคลธรรมดา มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และขณะนี้มีผู้ยื่นแบบเพื่อชำระภาษีกว่า 90% ยื่นแบบชำระภาษีทางออนไลน์ ส่วนผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจใบกำกับภาษีซื้อ ภาษีขายนั้น กรมสรรพากรได้นำระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (E-Tax) มาให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระภาษีของผู้ประกอบการ นายลวรณ กล่าวว่า การนำระบบออนไลน์มาช่วยในการจัดเก็บภาษีและการชำระภาษีของผู้มีหน้าที่เสียภาษี เพื่ออำนวยความสะดวก สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ ทั้งผู้จัดเก็บภาษีและผู้เสียภาษี โดยกรมสรรพากรจะพยายามทำให้การเสียภาษีเป็นเรื่องง่าย นอกจากช่วยลดต้นทุนการใช้กระดาษแล้ว ผู้ยื่นแบบภาษี ไม่ต้องเดินทางมายังที่ทำการของกรมสรรพากร ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อีกด้วย อีกทั้งผู้ชำระภาษีจะได้เงินคืนเร็วขึ้นด้วย   “ผมขอย้ำว่าผู้มีรายได้ต้องเสียภาษี ไม่ต้องกังวล หากยื่นแบบภาษีถูกต้อง แต่หากผู้เสียภาษีหลบเลี่ยงการเสียภาษี จากนี้ไปการหลบเลี่ยงจะทำได้ยากและลำบากมากยิ่งขึ้น เพราะกรมสรรพากรมีเครื่องมือในการตรวจสอบการเสียภาษีหลากหลายมิติ” ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเรื่องการยื่นแบบแสดงภาษีหรือการชำระภาษีนั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจยากและซับซ้อน โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ดังนั้น กรมสรรพากรจึงขอแนะนำให้เอสเอ็มอีสามารถใช้บริการผู้ให้บริการทำบัญชี และการยื่นแบบแสดงภาษีที่ได้ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากกรมสรรพากรแล้ว เป็นผู้ยื่นแบบภาษี ลดความผิดพลาดต่างๆ และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจัดเก็บภาษีย้อนหลังอีกต่อไป Cr: thairath