การกลับมาของ "ทรัมป์ 2" พร้อมนโยบายภาษีสุดโหด เริ่มส่งแรงกระเพื่อมมาถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยแล้ว โดยเฉพาะการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. เผยว่า การที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ 25% มีแนวโน้มทำให้มูลค่าการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนจากไทยไปยังสหรัฐฯ ลดลงราว 10% ซึ่งถือว่าหนักกว่าในช่วง "ทรัมป์ 1" ที่ส่งออกลดลงไป 8%

อย่างไรก็ตาม ปี 2567 ไทยยังคงส่งออกรถยนต์นั่งขนาดเล็กไปสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 320 ล้านดอลลาร์ (ราว 10,000 ล้านบาท) เติบโตสูงถึง 98% คิดเป็นสัดส่วน 6.2% ของการส่งออกรถยนต์ทั้งหมด
ขณะที่การส่งออก ชิ้นส่วนยานยนต์ อยู่ที่ 1,566 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 50,000 ล้านบาท) และ เครื่องยนต์สันดาป อีกกว่า 231 ล้านดอลลาร์ (7,000 ล้านบาท) เติบโต 17.4%

เฉพาะช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (2568) การส่งออกรถยนต์นั่งขนาดเล็กโตต่อเนื่องที่ 38 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 46% ส่วนชิ้นส่วนโต 1.8% และเครื่องยนต์โตถึง 31%

ด้าน นายเมธัส รัตนซ้อน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ให้ความเห็นว่า ไทยไม่น่าจะได้รับผลกระทบหนัก เพราะสัดส่วนการส่งออกรถยนต์ไปสหรัฐฯ มีไม่มาก ไม่เกิน 5% ของภาพรวม และอาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจเพียง 0.05% เท่านั้น แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือ ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจขยับขึ้นภาษีสินค้ากลุ่มอื่น เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ยางล้อ และหน่วยความจำ ซึ่งไทยมีการส่งออกไปสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก หากถูกขึ้นภาษี อาจกระทบชัดเจน

ขณะเดียวกัน นายทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ทางอีซูซุยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ชัดเจนในตอนนี้ แต่คาดว่าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบก่อน ส่วนตัวรถยนต์นั้นต้องรอดูทิศทางอีกระยะ อย่างไรก็ตาม อีซูซุไม่มีการส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐโดยตรง จึงได้รับผลกระทบน้อยกว่าค่ายอื่น

ที่มา - dailynews