ทุนยักษ์ใหญ่จีนรุกตลาดค้าปลีกค้าส่งไทย 'กลุ่มซามาเนีย' เปิดศูนย์ค้าปลีกใหญ่สุดในไทย ซามาเนีย พลาซ่า ขนาดพื้นที่ 200 ไร่ รวม 3.3 แสน ตร.ม. รวมร้านค้าปลีกค้าส่งครบวงจร จุดเปลี่ยนสำคัญตลาดค้าปลีกค้าส่งไทยมูลค่ากว่า 2.7 ล้านล้านบาท เป็นที่จับตาในแวดวงธุรกิจค้าปลีกค้าส่งไทย ที่มีมูลค่ามากกว่า 2.7 ล้านล้านบาท หลังยักษ์ใหญ่จากจีน "ซามาเนีย กรุ๊ป" ได้เดินหน้าเข้ามารุกทำตลาดในไทย และเปิดตัว "ซามาเนีย พลาซ่า" โครงการค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย ขนาดพื้นที่ 200 ไร่ หรือ ประมาณ 3.30 แสนตร.ม.   โดย ซามาเนีย กรุ๊ป ได้วางเป้าหมายให้เป็น ศูนย์รวมการค้าที่ครบวงจรและใหญ่สุดในประเทศไทย พื้นที่โครงการ ซามาเนีย พลาซ่า ตั้งอยู่ที่ถนนบางนา-ตราด กม26 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ในปัจจุบันโครงการได้ทยอยเปิดให้บริการเฟส 1 พื้นที่กว่า 5 หมื่นตรม. มี 4 อาคาร แบ่งเป็น ร้านขายสินค้ามากกว่า 500 ร้านค้า และร้านค้าโซนบริการ 100 ร้านค้า สำหรับกลุ่มสินค้ามีหลากหลายทั้งของใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ทำครัว เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์เครื่องมือช่าง โดยสินค้าส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งช่วงเปิดโครงการระยะแรก ได้ให้ลูกค้าสามารถเข้าชมและจองพื้นที่เช่า ด้วยโปรโมชั่นฟรีนานถึง 17 เดือน ในเฟสต่อไปจะมีการขยายโรงแรม อาคารสำนักงานและคอนโดมิเนียม เพื่อดำเนินการโครงการอย่างครบวงจร   ซามาเนีย ทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท สำหรับ ซามาเนีย ได้เข้ามาจัดตั้งบริษัทในไทย โดยมีการจดทะเบียนนิติบุคคลทั้ง บริษัท ซามาเนีย บางนา เข้ามาจัดตั้งบริษัทในไทย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2558 ทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท รวมถึงมีการจัดตั้ง บริษัท ซามาเนีย โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2558 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,023 ล้านบาท และ จัดตั้ง บริษัท ซามาเนีย บางนา 02 จำกัด ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท เมื่อ 2 พ.ย. 2559   จับตาค้าปลีกไทยมูลค่า 2.7 ล้านล้านบาท ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกค้าส่งของไทย มีมูลค่ากว่า 2.7 ล้านล้านบาท ตามการประเมินของ "วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา" โดยหากประเมินการมาของค้าปลีกยักษ์ใหญ่จากจีนในครั้งนี้ จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าจะสร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญต่อธุรกิจค้าปลีกค้าส่งของไทยอย่างไร เนื่องจากเป็นการนำเข้าสินค้าจำหน่ายโดยตรง จึงมีข้อได้เปรียบที่มีต้นทุนต่ำกว่าผู้ประกอบการไทย ขณะเดียวกันจะสร้างผลกระทบครั้งใหญ่ให้แก่ตลาดค้าส่งค้าปลีกของไทย เหมือนกับ ตลาดสำเพ็ง หรือไม่ ภายหลังที่มีผู้ประกอบการจากประเทศจีน เข้ามาเปิดร้านจำหน่ายสินค้าโดยตรงเช่นกัน และสามารถจัดตั้งราคาสินค้าที่ต่ำกว่าร้านค้าของผู้ประกอบการไทย Cr: bangkokbiznews