อินโดนีเซียเตรียมเปิดตลาดทุเรียนแช่แข็งในจีนอย่างเป็นทางการในปีนี้ หลังจากข้อตกลงระหว่างสองประเทศได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อย นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน ในโอกาสครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต
“การทูตทุเรียน” กลยุทธ์จีนเอาใจอาเซียน
จีน ซึ่งเป็นตลาดทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังขยายการนำเข้าทุเรียนจากกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย "การทูตทุเรียน" ที่จีนใช้กระชับความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาค และถ่วงดุลอิทธิพลของสหรัฐฯ
เมื่อปีที่ผ่านมา มูลค่าการนำเข้าทุเรียนของจีนสูงถึงเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นถึงความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อินโดนีเซียเองเล็งเห็นโอกาสนี้ และพร้อมเดินหน้าส่งออกทุเรียนแช่แข็งไปยังตลาดจีนโดยตรง
“หมอนทอง” อินโดฯ เตรียมบุกจีน
ปัจจุบัน จังหวัดสุลาเวสีกลางของอินโดนีเซียเป็นแหล่งผลิตทุเรียนหมอนทองที่สำคัญ ทุเรียนสายพันธุ์นี้แม้จะมีต้นกำเนิดจากไทย แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมปลูกในอินโดนีเซียและเวียดนาม
ด้วยเอกลักษณ์ที่ผลใหญ่ น้ำหนักราว 3-5 กิโลกรัม เนื้อสีเหลืองทอง หวานมัน เนียนนุ่ม เมล็ดเล็ก และมีเนื้อเยอะกว่าพันธุ์อื่น ทำให้หมอนทองเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดจีน
ลดเวลาขนส่ง ส่งตรงไม่ผ่านไทย
ที่ผ่านมาทุเรียนหมอนทองแช่แข็งจากอินโดนีเซียสามารถหาซื้อได้ในจีนอยู่แล้ว แต่ต้องผ่านการส่งออกทางประเทศไทย ซึ่งใช้เวลาขนส่งราว 1 เดือนกว่าสินค้าจะถึงมือผู้บริโภค
ภายใต้ข้อตกลงใหม่ อินโดนีเซียจะสามารถส่งออกทุเรียนแช่แข็งไปจีนได้โดยตรง ลดขั้นตอนการขนส่ง และเพิ่มความสดใหม่ของสินค้า ซึ่งน่าจะช่วยให้ทุเรียนอินโดนีเซียสามารถแข่งขันในตลาดจีนได้มากขึ้น
การเปิดตลาดครั้งนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้บริโภคชาวจีนได้ลิ้มรสทุเรียนหมอนทองจากอินโดนีเซียโดยตรง แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมทุเรียนในอินโดนีเซียอีกด้วย
ที่มา - pptvhd36