เปิดเส้นทาง “มอเตอร์เวย์ใหม่” ต่อขยายรังสิต–บางปะอิน เชื่อมกรุงเทพฯ สู่ภาคเหนือ–อีสาน เดินหน้าเปิดประมูลปี 2569
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 อนุมัติให้กรมทางหลวง (ทล.) ดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 5 สายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต–บางปะอิน ระยะทาง 22 กิโลเมตร ในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP Gross Cost) เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต รวมทั้งเชื่อมต่อการเดินทางจากใจกลางกรุงเทพฯ สู่ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้คล่องตัว สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสนับสนุนระบบขนส่งโลจิสติกส์และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นายสุวิชาณ สุระบาล ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมทางหลวงได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน (Market Sounding) แล้วเสร็จ โดยมีเป้าหมายจะเปิดประมูลโครงการภายในไตรมาสแรกของปี 2569 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงปลายปีเดียวกัน ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี และพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2574
สำหรับโครงการนี้เอกชนจะเป็นผู้รับผิดชอบการลงทุนทั้งหมด 100% ตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง บริหารจัดการ และบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน โดยภาครัฐจะชำระคืนให้เอกชนผ่านระบบ Availability Payment (AP) ตลอดอายุสัญญา 34 ปี แบ่งเป็นระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี และระยะเวลาดำเนินงานพร้อมบำรุงรักษาอีก 30 ปี ขณะที่วงเงินลงทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 42,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 30,080.8 ล้านบาท ค่าการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) 11,955.6 ล้านบาท ค่า Start-up Cost 19.4 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจุดพักรถ 209.3 ล้านบาท
แนวเส้นทางของมอเตอร์เวย์สายใหม่นี้เป็นส่วนต่อขยายจากทางยกระดับอุตราภิมุข (ช่วงอนุสรณ์สถาน–รังสิต) ที่เปิดให้บริการแล้ว ระยะทาง 7 กิโลเมตร โดยจะต่อเนื่องจากจุดสิ้นสุดของทางยกระดับเดิมบริเวณโรงกษาปณ์ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ที่กิโลเมตร 33+924 ของถนนพหลโยธิน เส้นทางมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือผ่านพื้นที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และอำเภอบางปะอิน รวมถึงอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปตามแนวถนนพหลโยธิน จนถึงจุดสิ้นสุดที่ทางแยกต่างระดับบางปะอิน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ทางหลวงหมายเลข 32 และทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สายบางปะอิน–นครราชสีมา (M6) ได้โดยตรง
ในอนาคต โครงการยังสามารถเชื่อมต่อกับทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (ถนนกาญจนาภิเษก) ทั้งด้านตะวันตกและด้านตะวันออก เพื่อรองรับการเดินทางรอบกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อย่างสมบูรณ์ เส้นทางดังกล่าวจะเป็นทางยกระดับตลอดแนว ขนาด 6 ช่องจราจร (ทิศทางละ 3 ช่องจราจร) รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 29 กิโลเมตร
โครงการกำหนดให้มีตำแหน่งเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ รังสิต 1, รังสิต 2, คลองหลวง, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นวนคร, วไลยอลงกรณ์ และประตูน้ำพระอินทร์ พร้อมทั้งมีทางขึ้น–ลงและทางกลับรถยกระดับในจุดสำคัญทั้ง 7 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทาง รวมถึงจุดพักรถบริเวณรังสิต 1 ที่กิโลเมตร 35+075 ถึง 35+300 ขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนโครงสร้างทางยกระดับ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องน้ำ ศาลาที่พัก พื้นที่จำหน่ายสินค้า สำนักงาน และที่จอดรถสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลและรถโดยสารขนาดใหญ่
นอกจากนี้ โครงการยังมีจุดเชื่อมต่อทางแยกต่างระดับ 2 แห่ง คือ บริเวณรังสิต 1 เพื่อเชื่อมต่อกับทางยกระดับอุตราภิมุขเดิม และบริเวณจุดสิ้นสุดของโครงการที่เชื่อมต่อกับทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน–นครราชสีมา รวมถึงทางหลวงหมายเลข 32 เพื่อรองรับการเดินทางไปยังภาคกลางตอนบนและภาคเหนือได้อย่างสะดวกต่อเนื่อง
เมื่อโครงการมอเตอร์เวย์ M5 ส่วนต่อขยายรังสิต–บางปะอินเปิดใช้งานเต็มรูปแบบ จะช่วยลดปัญหาการจราจรแออัดบริเวณถนนพหลโยธินและวิภาวดีรังสิต เชื่อมโครงข่ายคมนาคมสำคัญระหว่างกรุงเทพฯ และภูมิภาคต่าง ๆ ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ของประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว





