News

ส.อ.ท. ผวา! ภาษี 36% จากสหรัฐฯ ฉุดส่งออกไทยเสียหายสูงสุด 9 แสนล้านบาท จี้รัฐเร่งเจรจาด่วน

ภาคอุตสาหกรรมไทยเผชิญความเสี่ยงครั้งใหญ่ หลังจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยในอัตราสูงถึง 36% มีผลตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2568 ส่งผลให้ไทยกลายเป็นประเทศที่เสียเปรียบเชิงการแข่งขันเมื่อเทียบกับชาติคู่แข่งในภูมิภาคอย่างเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่ถูกเก็บภาษีต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า ภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดใหม่นี้ถือว่าสูงเกินคาดการณ์ และครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะกลุ่มที่ไทยมีความสามารถในการส่งออกสูง เช่น อาหารแปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ และอัญมณี คาดว่าความเสียหายจากมาตรการใหม่นี้จะกระทบมูลค่าการส่งออกของไทยราว 8-9 แสนล้านบาท

แม้ฝ่ายไทยได้ส่งข้อเสนอเบื้องต้นไปยังสหรัฐฯ แล้วตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม และมีการลงนามอย่างเป็นทางการในวันถัดมา แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งคำสั่งภาษีดังกล่าวได้ ขณะนี้ได้มีการส่งข้อเสนอฉบับที่ 2 ซึ่งครอบคลุมรายการสินค้าที่จะลดภาษีให้เป็นศูนย์เพิ่มขึ้นหลายพันรายการ โดยคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะทบทวนและตอบรับในทางบวกเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ยังคงคลุมเครือ ส.อ.ท. เตรียมจัดประชุมเร่งด่วนร่วมกับ 47 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 11 คลัสเตอร์ เพื่อประเมินผลกระทบแบบละเอียดในแต่ละกลุ่มสินค้า พร้อมจัดทำแนวทางรับมือและมาตรการเยียวยาอย่างเป็นระบบ ก่อนจะนำเสนอผ่านคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ไปยังรัฐบาลเพื่อเร่งเปิดเจรจากับสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ไทยต้องดำเนินนโยบายเชิงรุกด้านการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกับคู่ค้ารายสำคัญอย่างสหรัฐฯ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และปกป้องเศรษฐกิจส่งออกซึ่งเป็นกลไกสำคัญของประเทศไม่ให้ได้รับผลกระทบในระยะยาว

ที่มา - bangkokbiznews

news-20250708-03

ทางรถไฟจีน-ลาว สร้างสถิติใหม่ ครึ่งปีแรก 2025 แรงทั้งคนและของ เชื่อมเศรษฐกิจภูมิภาคแน่นแฟ้น

การเชื่อมต่อเศรษฐกิจระหว่างจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เดินหน้าสู่ระดับใหม่ หลังจาก “ทางรถไฟจีน-ลาว” สร้างสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในการขนส่งข้ามพรมแดนช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ทั้งในด้านจำนวนผู้โดยสารและปริมาณสินค้า โดยเฉพาะท่าเรือโมฮาน ชายแดนจีน-ลาวที่มณฑลยูนนาน ซึ่งกลายเป็นด่านสำคัญที่รองรับผู้เดินทางกว่า 145,000 เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวเชิงบวกนี้สะท้อนความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้บริการแบบไม่ต้องขอวีซ่ามากกว่าครึ่งของจำนวนทั้งหมด โดย 3 อันดับแรกคือ ลาว ไทย และมาเลเซีย ทั้งยังมีการเดินขบวนรถไฟข้ามพรมแดนแล้วกว่า 4,400 ขบวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 6.4 ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ

ด้านการขนส่งสินค้า ทางรถไฟสายนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพที่เหนือชั้น โดยเฉพาะบริการ Lancang-Mekong Express ที่สามารถส่งสินค้าระหว่างคุนหมิงและเวียงจันทน์ภายใน 26 ชั่วโมงเท่านั้น ขณะเดียวกัน เส้นทางโลจิสติกส์ควบคุมอุณหภูมิที่เชื่อมจีน-ลาว-ไทย สามารถลดเวลาการขนส่งลงเหลือเพียง 40 ชั่วโมง

ในช่วงครึ่งปีแรก ทางรถไฟจีน-ลาวขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนได้มากกว่า 3.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหากนับตั้งแต่เปิดให้บริการ ตัวเลขการขนส่งสะสมทะลุกว่า 13 ล้านตันแล้ว สินค้าครอบคลุมกว่า 3,000 ประเภท ตั้งแต่ยางพารา ปุ๋ย อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงรถยนต์ โดยทั้งหมดส่งต่อไปยัง 12 ประเทศพันธมิตรในกรอบ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”

ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงบทบาทของจีนในฐานะผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาค แต่ยังส่งสัญญาณเชิงบวกต่ออนาคตของเศรษฐกิจ CLMV และไทย ที่กำลังได้รับอานิสงส์จากโครงข่ายคมนาคมที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้นในระดับภูมิภาค

news-20250708-02

“ทรัมป์” ประกาศเก็บภาษีนำเข้า 14 ประเทศ “ไทย” โดน 36% เริ่ม 1 ส.ค. นี้

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จุดกระแสร้อนวงการค้าระหว่างประเทศอีกครั้ง หลังประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก 14 ประเทศทั่วโลก โดยในกลุ่มนี้มี “ไทย” รวมอยู่ด้วย พร้อมระบุอัตราภาษีที่สูงถึง 36% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ท่าทีแข็งกร้าวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นมาตรการต่อเนื่องภายใต้นโยบาย “America First” ที่ทรัมป์เดินหน้าผลักดันมาตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก

จดหมายประกาศขึ้นภาษีซึ่งลงนามโดยทรัมป์เอง ถูกส่งไปยังผู้นำประเทศต่าง ๆ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว เมียนมา และไทย โดยระบุว่ามาตรการนี้มีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ พร้อมเตือนว่าหากประเทศใดตอบโต้ด้วยการตั้งกำแพงภาษีคืน สหรัฐฯ จะเพิ่มภาษีขึ้นอีกในอัตราเท่ากันทันที

แม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลทรัมป์จะเคยประกาศ "หยุดพัก" การจัดเก็บภาษีเป็นเวลา 90 วันตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อเปิดทางเจรจา แต่ขณะนี้กลับมีคำสั่งฝ่ายบริหารใหม่เลื่อนการเก็บภาษีไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม โดยยังไม่มีความชัดเจนว่าแต่ละประเทศจะตอบสนองอย่างไร ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนทั่วโลกว่าการค้าระหว่างประเทศอาจเผชิญกับแรงกดดันรอบใหม่จาก “สงครามภาษี”

จดหมายยังเน้นย้ำว่า มาตรการภาษีใหม่นี้จะไม่รวม “ภาษีเฉพาะกลุ่ม” ซึ่งอาจมีการเรียกเก็บเพิ่มกับสินค้าบางประเภท และเตือนถึงพฤติกรรม “เปลี่ยนประเทศปลายทาง” (transshipping) ว่าอาจถูกตรวจสอบและเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าปกติ หากพบว่ามีการเลี่ยงภาษีผ่านประเทศที่สาม เช่น ใช้เวียดนามเป็นทางผ่านก่อนเข้าสหรัฐฯ

สำหรับประเทศไทย ซึ่งถูกระบุว่าจะถูกเก็บภาษีในอัตรา 36% ถือเป็นระดับสูงสุดในกลุ่ม 14 ประเทศที่ถูกตั้งเป้าในครั้งนี้ อาจต้องเตรียมรับแรงกระแทกโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมส่งออก เช่น เครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอ ที่มีการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก โดยนักวิเคราะห์เตือนว่า หากไม่มีมาตรการรองรับจากรัฐบาล อุตสาหกรรมไทยอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดสหรัฐอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยังไม่มีถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการตอบโต้ต่อประกาศดังกล่าว ขณะที่หลายฝ่ายในภาคเอกชนเริ่มเรียกร้องให้มีการหารือร่วมกันระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการ เพื่อประเมินผลกระทบและวางแนวทางรับมือเชิงรุก ก่อนที่มาตรการนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม

news-20250708-01

ถนนสาย พท. 4004 พัทลุงคืบหน้า 83% ดันท่องเที่ยวทะเลสาบสงขลา - เชื่อมโลจิสติกส์ฝั่งอ่าวไทยสู่ท่าเรือน้ำลึก

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เร่งผลักดันโครงการก่อสร้างถนนสาย พท.4004 แยกจากทางหลวงหมายเลข 4081 ไปยังบ้านฝาละมี จังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมชายฝั่งทะเลสาบสงขลากับระบบคมนาคมหลัก โดยล่าสุดมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 83% เร็วกว่าแผนที่วางไว้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปลายปี 2568 นี้

โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมของภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะในพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติสำคัญและมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม ถนนสาย พท.4004 มีระยะทางกว่า 25.6 กิโลเมตร พาดผ่านพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดพัทลุง ได้แก่ เขาชัยสน บางแก้ว และปากพะยูน

การก่อสร้างใช้โครงสร้างถนนแบบผิวจราจรแอสฟัลต์คอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร พร้อมระบบไฟฟ้าแสงสว่าง สะพานขยายตัวเดิม และสิ่งอำนวยความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยใช้งบประมาณรวม 429.5 ล้านบาท ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังยกระดับการเชื่อมต่อกับถนนสายหลักและท่าเรือน้ำลึกจังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูลในอนาคต

นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดี ทช. ระบุว่า ถนนเส้นนี้จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ผ่านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา อีกทั้งยังสอดรับกับแผนการพัฒนาโลจิสติกส์ในภาคใต้ ที่ต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการขนส่งสินค้าสู่ท่าเรือน้ำลึกอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ถนน พท.4004 ยังจะช่วยบรรเทาปริมาณการจราจรบนถนนสายหลัก ลดเวลาการเดินทางในพื้นที่ และเพิ่มความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสูงสุด ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สร้างทั้งโอกาสทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนในภาคใต้ตอนล่างอย่างแท้จริง

ที่มา - mgronline

Facebook Pagelike Widget

The most efficient online logistics media in Thailand.

Contact Info

Follow Us