News

news-20250421-03

'ทล.' จ่อประมูล O&M มอเตอร์เวย์ ’บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว' พ.ค.นี้

กรมทางหลวงดันประมูลเอกชนร่วมลงทุนระบบ O&M มอเตอร์เวย์ 82 "บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว" พ.ค.นี้ คาดเปิดเต็มรูปแบบไม่เกินต้นปี 70 ส่วน "ที่พักริมทาง" มอเตอร์เวย์ "บางปะอิน และบางใหญ่" เร่งปรับ RFP เงื่อนไขยืดเวลาสร้างอาคารคล่อมเชื่อมสองฝั่ง ชงบอร์ด PPP เห็นชอบดันประมูลปลายปีนี้

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal: RFP) และร่างสัญญาร่วมลงทุน ในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับช่วง บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โดยคาดว่าจะออกประกาศเชิญชวนเอกชนได้ในช่วงปลายเดือน พ.ค. 2568 และตามแผนจะให้เวลาจัดทำเอกสารประมาณ 3-4 เดือน คาดว่าจะได้ตัวผู้ชนะคัดเลือกภายในปี 2568

เดิมคาดว่าจะประกาศ RFP ประมูลได้ในปลายเดือนเม.ย.นี้ แต่มีกระบวนการทางเอกสารที่ต้องทำให้รอบคอบ อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกงานระบบ O&M มอเตอร์เวย์ 82 สายทางยกระดับ "บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว" จะสอดคล้องกับการก่อสร้างงานโยธาที่จะทยอยแล้วเสร็จ โดยช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 8.34 กม. มีความคืบหน้า 99.27% ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 16.356 กม. คืบหน้า 73.09% โดยงานที่ล่าช้าที่สุดมี 3 สัญญา จากการมอนิเตอร์ล่าสุด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 2568 พร้อมที่จะให้งานระบบ O&M เข้าดำเนินการในต้นปี 2569 และคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบปลายปี 2569 หรือ ต้นปี 2570

นายอภิรัฐกล่าวว่า นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี 2568 คาดว่าจะสามารถประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนในการพัฒนาและบริหารจัดการโครงการที่พักริมทาง (Rest Area) ทางหลวงพิเศษ บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา จำนวน 2 สัญญา และมอเตอร์เวย์หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จำนวน 1 สัญญาได้ โดยขณะนี้การปรับปรุงร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) ใกล้เสร็จแล้ว โดยมีการปรับเงื่อนไขเพื่อให้มีความคุ้มค่าในการลงทุนและจูงใจเอกชนมากขึ้น

หลังเปิดรับฟังความเห็นเอกชน มีความกังวลเงื่อนไขก่อสร้างอาคารยกระดับคร่อมเหนือมอเตอร์เวย์ เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์และเชื่อมจุดพักรถสองฝั่ง ขณะที่ปริมาณจราจรในเส้นทาง เส้นทางใหม่อาจไม่ชัดเจน จึงมีความเสี่ยงในการลงทุน จึงพิจารณา ปรับระยะเวลาก่อสร้างอาคารยกระดับเพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยใช้ปริมาณจราจรเป็นเกณฑ์กำหนดในการเริ่มก่อสร้างอาคารคร่อมดังกล่าว

หลังปรับเงื่อนไขแล้วยังมีขั้นตอนที่ต้องเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเห็นชอบ จากนั้นต้องเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อเสนอคณะกรรมการ PPP พิจารณา หลังจากนั้น ทล.จะเสนอร่าง RFP ที่ปรับปรุงใหม่ให้คณะกรรมการคัดเลือกเห็นชอบเพื่อประกาศเชิญชวนต่อไป

ที่มา - mgronline

news-20250421-02

โลจิสติกส์ไทยซบเซา ต่างชาติแห่ลงทุน “ตัวแทนส่งสินค้า” มูลค่ากว่า 238 ล้าน จับตาโอกาสเติบโตระดับโลก

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) รายงานภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบว่าแนวโน้มยังชะลอตัว โดยมีการเปิดกิจการใหม่เพียง 307 ราย ลดลง 4.4% จากปีก่อน ขณะที่จำนวนกิจการที่ปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง 44.1% รวมธุรกิจโลจิสติกส์ทั่วประเทศขณะนี้อยู่ที่ 45,346 ราย

อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจที่ยังเติบโตและน่าจับตาคือ "ตัวแทนรับจัดการส่งสินค้าและตัวแทนออกของ" (Freight Forwarder และ Customs Broker) ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 22.2% โดยในเดือนเดียวกันมีผู้ประกอบการเปิดกิจการใหม่ 33 ราย สะท้อนถึงความต้องการบุคลากรและบริการในกลุ่มนี้ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง

ต่างชาติลงทุนธุรกิจตัวแทนส่งของในไทยพุ่ง มูลค่ารวมกว่า 238 ล้านบาท
การลงทุนจากต่างประเทศในธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่ารวม 238.14 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.52% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมดในภาคโลจิสติกส์ โดยนักลงทุนหลักมาจาก จีน สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เมียนมา และสวิตเซอร์แลนด์

น่าสนใจว่า กว่า 24.55% ของการลงทุนจากต่างชาติ มุ่งสู่ธุรกิจตัวแทนส่งสินค้าและตัวแทนออกของ ซึ่งเป็นสัญญาณว่า "ธุรกิจบริการด้านการจัดการโลจิสติกส์" กำลังเป็นที่จับตามอง และมีศักยภาพในตลาดไทยและภูมิภาค

ไทย-อาเซียนเร่งเครื่องเชื่อมโครงข่ายโลจิสติกส์สู่จีนและยุโรป
ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคมของไทยกำลังเดินหน้าโครงการใหญ่หลายโครงการ เช่น การสร้างสะพานรถไฟมิตรภาพไทย-ลาว (หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์) แห่งที่ 2 เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางและขนส่งสินค้าจากไทยสู่ลาวและจีน โดยคาดว่าแบบก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2568 และเริ่มก่อสร้างจริงในไตรมาส 3 ของปี 2569 คาดเปิดให้บริการได้ในปี 2572

ด้านเวียดนามก็ไม่แพ้กัน กำลังเร่งสร้าง ทางรถไฟสายหล่าวกาย–ฮานอย–ไฮฟอง เพื่อเชื่อมต่อการขนส่งทางรถไฟของเวียดนามเข้ากับเครือข่ายของจีน โดยตั้งเป้าเปิดใช้งานในปี 2573

ตลาดตัวแทนส่งสินค้าทั่วโลกโตไม่หยุด มูลค่าทะลุ 1.3 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2571
ข้อมูลจากการวิเคราะห์อุตสาหกรรมโลจิสติกส์โลกชี้ว่า ธุรกิจ “ตัวแทนส่งสินค้า” หรือ Freight Forwarding มีมูลค่าประมาณ 1.11 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2567 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.39 แสนล้านดอลลาร์ ภายในปี 2571 เติบโตเฉลี่ยปีละ 5.8%

การเติบโตนี้ได้แรงหนุนจากหลายปัจจัย เช่น

  • การใช้ AI, IoT และ Blockchain ในการจัดการขนส่ง
  • แนวทางโลจิสติกส์สีเขียวและระบบอัตโนมัติ
  • การเติบโตของ E-commerce ข้ามพรมแดน

โดยภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเป็นตลาดใหญ่ที่สุด คิดเป็น 35% ของตลาดโลก หรือมูลค่าราว 7 หมื่นล้านดอลลาร์

สหรัฐฯ ครองอันดับหนึ่งด้าน Freight Forwarding ด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก
ในสหรัฐอเมริกา ธุรกิจตัวแทนส่งสินค้ามีมูลค่าราว 25,800 ล้านดอลลาร์ ในปี 2566 และคาดว่าจะเติบโตถึง 35,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นผลจากการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ระบบ E-commerce ขนาดใหญ่ (มูลค่า 1.19 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2567) และการเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศของโลก

สหรัฐฯ ยังมี ท่าอากาศยานเมมฟิส (Memphis International Airport) เป็นหนึ่งในสนามบินขนส่งสินค้าทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นศูนย์กลางหลักของบริษัท FedEx ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์

ที่มา - thansettakij

news-20250421-01

กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเปิดอบรมโลจิสติกส์ฟรี! พร้อมการันตีมีงานทำ รายได้สูงสุด 4 หมื่นบาทต่อเดือน

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เปิดรับสมัครอบรมหลักสูตร “การจัดการโลจิสติกส์สินค้าอันตรายเพื่อการขนส่งข้ามแดนในกลุ่ม CLMVT” ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมโอกาสทำงานจริงกับบริษัทชั้นนำในเครือสมาคม HASLA รายได้เริ่มต้น 18,000 – 40,000 บาทต่อเดือน และอาจมากกว่านี้หากมีทักษะด้านภาษา!

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เผยว่า อาชีพด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับสินค้าอันตราย กำลังขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะและความรู้เฉพาะด้านสูงมาก โดยเฉพาะในธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ จึงได้ร่วมมือกับ สมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย (HASLA) จัดหลักสูตรพิเศษเพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานรุ่นใหม่ พร้อมทั้งจับมือกับภาคเอกชน รองรับผู้เข้าอบรมเข้าทำงานจริงทันทีหลังเรียนจบ

รายละเอียดหลักสูตรอบรม
ชื่อหลักสูตร: การจัดการโลจิสติกส์สินค้าอันตรายเพื่อการขนส่งข้ามแดน CLMVT

คุณสมบัติผู้สมัคร:

  • สัญชาติไทย
  • อายุไม่เกิน 28 ปี
  • ว่างงาน
  • จบปริญญาตรีทุกสาขา
  • ไม่อยู่ระหว่างการศึกษา หรืออบรมอื่น
  • จำนวนรับ: 50 คน

อบรมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

ระยะเวลาอบรม:

ภาคทฤษฎี: 15 พ.ค. - 7 ก.ค. 2568
ภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ: 15 ก.ค. – 15 ส.ค. 2568
วันอบรม: วันจันทร์ – ศุกร์

ผู้ผ่านการอบรมจะมีโอกาสเข้าสู่สายงานที่หลากหลาย อาทิ

  • เจ้าหน้าที่ควบคุมคลังสินค้า
  • นักวางแผนการขนส่ง
  • ผู้ควบคุม GPS
  • เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย
  • ผู้ควบคุมและบริหารการขนส่ง
  • เจ้าหน้าที่รับผิดชอบการเก็บวัตถุอันตราย

ซึ่งมีบริษัทในเครือ HASLA รองรับ เช่น บริษัท ฮาซเคม โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ศรีไทย กรุ๊ป จำกัด

สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 4 พฤษภาคม 2568
สมัครออนไลน์: www.hasla.or.th
โทรสอบถาม:

06 1026 2426 (HASLA)
0 2248 4782 ต่อ 2508 (LoSA)

โอกาสดีแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ใครสนใจงานด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะสายสินค้าอันตราย รีบสมัครด่วน! หลักสูตรนี้ไม่เพียงแค่ “เรียนฟรี” แต่ยัง “มีงานรองรับ” พร้อมรายได้ที่เติบโตตามประสบการณ์อีกด้วย!

ที่มา - matichon

news-20250418-03

'คมนาคม' เผยยอดเดินทางสงกรานต์ 6 วัน ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะกว่า 14.6 ล้านคน - รถยนต์ผ่านเส้นทางหลัก 5.8 ล้านคัน

กระทรวงคมนาคม สรุปภาพรวมการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 – 16 เมษายน พบว่าประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างสะดวกปลอดภัย ทุกระบบขนส่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ครบถ้วน ไม่มีตกค้าง โดยมีผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะทั่วประเทศรวมกว่า 14.6 ล้านคน ขณะเดียวกันมีรถยนต์กว่า 5.8 ล้านคัน เดินทางผ่าน 11 เส้นทางสายหลัก

ภายใต้นโยบายของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กระทรวงฯ ได้บูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงานในสังกัด เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความมั่นใจในการเดินทางของประชาชนตลอดช่วงวันหยุดยาว

ยอดอุบัติเหตุลดลง แต่ "ขับเร็ว" ยังเป็นปัจจัยหลัก
ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม รายงานว่า ในช่วง 6 วันเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายคมนาคมรวม 1,279 ครั้ง ลดลงจากปีก่อนหน้า 7% มีผู้เสียชีวิต 139 คน (ลดลง 23%) และผู้บาดเจ็บ 1,270 คน

ปัจจัยหลักของอุบัติเหตุคือ การขับรถเร็วเกินกำหนด ซึ่งคิดเป็น 62% ของเหตุทั้งหมด โดยรถที่เกิดเหตุส่วนใหญ่คือ รถปิคอัพ 4 ล้อ และจุดเกิดเหตุส่วนใหญ่เป็น ถนนทางตรงไม่มีความลาดชัน ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ สระแก้ว (9 คน) ขณะที่ กรุงเทพมหานคร มีจำนวนอุบัติเหตุสูงสุด (74 ครั้ง)

รถไฟใช้สูงสุด - รถไฟฟ้าสีชมพูเปิดให้บริการครบทุกสถานี
ด้านการขนส่งสาธารณะ แม้ยอดผู้โดยสารจะลดลงจากปีที่แล้วเล็กน้อย (1.72%) แต่ระบบยังให้บริการได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะ ระบบขนส่งทางราง ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คิดเป็น 42.99% ของผู้โดยสารทั้งหมด

ข่าวดีสำหรับคนกรุงเทพฯ รถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพูกลับมาเปิดให้บริการครบทั้ง 30 สถานีอีกครั้ง ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน เพื่อรองรับการเดินทางหลังหยุดยาว

ที่มา - mgronline

Facebook Pagelike Widget

The most efficient online logistics media in Thailand.

Contact Info

Follow Us