บมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO ไฟแรง! ผนึกกำลังพันธมิตร “ศรีตรังโลจิสติกส์ – อภิศศิโฮลดิ้ง” เปิดบริษัทใหม่  ลุยให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟทั้งในและต่างประเทศแบบครบวงจร  รวมถึงร่วมลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและภายในประเทศด้วยระบบไปรษณีย์ (Global Mail Solutions) และการขนส่งสินค้าผ่านแดน (Cross Border Transport)  คาดจะเพิ่มรายได้อย่างน้อย 200 ล้านบาทต่อปี ฟาก “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” มั่นใจสามารถต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจร และนำพาบริษัทให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างแน่นอน

.

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา  ที่ประชุมคณะผู้บริหารบริษัทฯ ได้อนุมัติให้เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท ศรีตรังโลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟครอบคลุมภายในประเทศไทยและผ่านแดนไปยังประเทศมาเลเซีย มีประสบการณ์ในการขนส่งสินค้าทางรถไฟทั่วประเทศมานานมากกว่า 7 ปี จัดตั้งบริษัทใหม่ ชื่อ “บริษัท ศรีตรัง ลีโอ มัลติโมเดิล ลอจิสติกส์ จำกัด” มีทุนจดทะเบียน จำนวน 50,000,000 บาท โดยบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ลงทุน 25,000,000 บาท คิดเป็น 50% และบริษัท ศรีตรังโลจิสติกส์ จำกัด (ไม่เข้าข่ายเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ) ลงทุน 25,000,000 บาท คิดเป็น 50% เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจในด้านการขนส่งสินค้าทางรถไฟทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการให้บริการขึ้น-ลงสินค้าที่บริเวณสถานีรถไฟ การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ การดำเนินพิธีการกรมศุลกากร และธุรกิจเสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องพร้อมกันนี้ ได้อนุมัติให้บริษัทฯ ร่วมมือกับ บริษัท อภิศศิโฮลดิ้ง จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ “บริษัท ลีโอ โกลบอล เมล โซลูชันส์ จำกัด” มีทุนจดทะเบียนร่วมกัน 5,000,000 บาท สัดส่วนการลงทุน บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) 3,500,000 บาท คิดเป็น 70% และบริษัท อภิศศิโฮลดิ้ง จำกัด (ไม่เข้าข่ายเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ) ลงทุน 1,500,000 บาท คิดเป็น 30% เพื่อให้บริการโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและภายในประเทศด้วยระบบไปรษณีย์ (Global Mail Solutions) และการขนส่งสินค้าผ่านแดน (Cross Border Transport)

.

“LEO มองเห็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอยู่เสมอ จึงมองหาพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาช่วยต่อยอดและขยายการให้บริการโลจิสติกส์ให้ครบวงจรในทุกๆ ส่วน  สามารถขยายฐานลูกค้าและพื้นที่ในการให้บริการได้รวดเร็ว ทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งการร่วมลงทุนในครั้งนี้ ในส่วนของ บริษัท ศรีตรัง ลีโอ มัลติโมเดิล ลอจิสติกส์ จำกัด คาดว่าจะมีรายได้ปีละประมาณ 200 ล้านบาท และในส่วนของ บริษัท ลีโอ โกลบอล เมล โซลูชันส์ จำกัด เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรอการลงทุนร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศ เพื่อการขยายธุรกิจการขนส่งสินค้าด้วยระบบไปรษณีย์เพื่อการขยายการให้บริการสำหรับกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ ทั้ง 2 บริษัท ที่ทาง LEO ได้เข้าร่วมลงทุนนี้ เป็นไปตามแผนขยายธุรกิจที่ทางคณะผู้บริหารได้วางแผนงานไว้ ประกอบกับกลยุทธ์การบริหารธุรกิจของ LEO ที่มุ่งเน้นไปสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์แบบครงวงจร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการให้บริการลูกค้า สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าและระบบโลจิสติกส์ของโลกในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถขยายธุรกิจของบริษัทฯ ร่วมกับพันธมิตรให้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แข็งแกร่งและยั่งยืน ส่งผลให้บริษัทฯ มีความสามารถในการสร้างยอดขายและกำไรให้เติบโต อีกทั้งยังสามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ต่อเนื่องและยั่งยืน” นายเกตติวิทย์ กล่าว

ที่มา : prachachat.net

นายทศพร อสุนีย์ ประธานกลุ่มบริษัทพัทยา (PATTAYA GROUP) เปิดเผยว่า พัทยาแอร์เวย์มีแผนที่จะใช้เครื่องบิน ATR 72-500 Freighter ทั้งหมด 2 ลำ ในปีแรกสำหรับการทำตลาดขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และ E-Commerce ในภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ เครื่องบิน ATR 72-500 Freighter มีจุดเด่นในการบรรทุกสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงสินค้าเกษตร อาหาร ยา และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องบินดังกล่าวสามารถบรรทุกสินค้าได้สูงสุด 8 ตัน และบินได้ไกลถึง 900 ไมล์ทะเล หรือ 1,666.8 กิโลเมตร หรือประมาณ 3 ชั่วโมงบิน

นายณัฏฐน์ บุณยวิชญ์กานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทพัทยา กล่าวว่า สายการบินได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการค้าขายการเดินอากาศ  (Air Operating License หรือ AOL) จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"สายการบินจะให้บริการในลักษณะการจับมือกับคู่ค้าพันธมิตร B2B ที่ได้ลงนามทำการค้าร่วมกัน  เพื่อตอบรับการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น NEW NORMAL เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์หรือ E-commerce มากยิ่งขึ้น

Cr: thansettakij

COSCO Shipping Greenwater 01 เรือคอนเทเนอร์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสร็จสิ้นการเดินทางครั้งแรกที่ท่าเรือหยางซาน (Yangshan) ในเซี่ยงไฮ้ และจะเริ่มเดินเรือเป็นประจําทุกสัปดาห์ ระหว่างเมืองใหญ่ในภูมิภาคชายฝั่งตะวันออกของจีน

เรือมีความยาว 119.8 เมตร กว้าง 23.6 เมตร เท่ากับขนาดของสนามบาสเกตบอล 10 สนาม เรือติดตั้งกล่องแบตเตอรี่ขนาดเท่าตู้คอนเทเนอร์ 20 ฟุต เพื่อใช้ในการเดินเรือ Wang Jun กัปตันเรือ COSCO Shipping Greenwater 01 กล่าวว่า ชุดแบตเตอรี่ 1 ชุด มีกล่องแบตเตอรี่ 6 กล่อง แต่ละกล่องสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ 1,600 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ชุดแบตเตอรี่ 1 ชุด เพียงพอสำหรับการเดินเรือในแต่ละวัน ที่ต้องใช้ไฟฟ้าประมาณ 80,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง เท่ากับน้ำมันประมาณ 15 ตัน สําหรับเรือที่ใช้เชื้อเพลิง

เมื่อเรือแล่นทุกๆ 100 ไมล์ทะเล สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ 3,900 กิโลกรัม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 12.4 เมตริกตัน

หลังจากเทียบท่าแล้ว เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางทะเลของท่าเรือ ตรวจสอบชุดแบตเตอรี่ ระบบตรวจจับอัคคีภัย และระบบเตือนภัยของช่องใส่แบตเตอรี่เรืออีกครั้ง และฝึกอบรมลูกเรือในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน 

Zhang Lifu เจ้าหน้าที่บอกว่า กรณีเกิดสถานการณ์ไฟไหม้ จะต้องใช้ระบบดับเพลิงเฮปตาฟลูออโรโพรเพน (heptafluoropropane) ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นคือการฝึกอบรมลูกเรือ ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินให้ได้

เครดิต China Media Group (CMG)

Cr: dailynews

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะผู้บริหารบริษัทฯ ได้อนุมัติให้เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท ศรีตรังโลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟครอบคลุมภายในประเทศไทยและผ่านแดนไปยังประเทศมาเลเซีย มีประสบการณ์ในการขนส่งสินค้าทางรถไฟทั่วประเทศมานานมากกว่า 7 ปี จัดตั้งบริษัทใหม่ ชื่อ "บริษัท ศรีตรัง ลีโอ มัลติโมเดิล ลอจิสติกส์ จำกัด" มีทุนจดทะเบียน จำนวน 50,000,000 บาท โดยบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ลงทุน 25,000,000 บาท คิดเป็น 50% และบริษัท ศรีตรังโลจิสติกส์ จำกัด ลงทุน 25,000,000 บาท คิดเป็น 50% เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจในด้านการขนส่งสินค้าทางรถไฟทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการให้บริการขึ้น-ลงสินค้าที่บริเวณสถานีรถไฟ การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ การดำเนินพิธีการกรมศุลกากร และธุรกิจเสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง

พร้อมกันนี้ ได้อนุมัติให้บริษัทฯ ร่วมมือกับ บริษัท อภิศศิโฮลดิ้ง จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ "บริษัท ลีโอ โกลบอล เมล โซลูชันส์ จำกัด" มีทุนจดทะเบียนร่วมกัน 5,000,000 บาท สัดส่วนการลงทุนของ LEO 3,500,000 บาท คิดเป็น 70% และบริษัท อภิศศิโฮลดิ้ง จำกัด ลงทุน 1,500,000 บาท คิดเป็น 30% เพื่อให้บริการโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและภายในประเทศด้วยระบบไปรษณีย์ (Global Mail Solutions) และการขนส่งสินค้าผ่านแดน (Cross Border Transport)

"LEO มองเห็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอยู่เสมอ จึงมองหาพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาช่วยต่อยอดและขยายการให้บริการโลจิสติกส์ให้ครบวงจรในทุกๆส่วน สามารถขยายฐานลูกค้าและพื้นที่ในการให้บริการได้รวดเร็ว ทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด" " นายเกตติวิทย์ กล่าว

ประกอบกับกลยุทธ์การบริหารธุรกิจของ LEO ที่มุ่งเน้นไปสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์แบบครงวงจร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการให้บริการลูกค้า สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าและระบบโลจิสติกส์ของโลกในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Cr: ryt9