News

news-12112024-02

เฮ! คมนาคม พร้อมเปิด “มอเตอร์เวย์ฟรี” ยาว 8 วัน ปีใหม่ 2568

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมทางหลวง อยู่ระหว่างการจัดทำร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. ... โดยมีสาระสำคัญเป็นการเปิดให้บริการ “มอเตอร์เวย์ฟรี” ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่ 2568

ทั้งนี้ กรมทางหลวง แจ้งความจำเป็นของการยกร่างกฎกระทรวงครั้งนี้ เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก เป็นผลทำให้การจราจรติดขัดในทุกสายทางที่ออกและเข้ากรุงเทพและปริมณฑล การยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นทำให้การจราจรมีความคล่องตัว และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

สำหรับรายละเอียของการเปิดให้บริการ “มอเตอร์เวย์ฟรี” ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 มีดังนี้

มอเตอร์เวย์ฟรี สายไหนบ้าง
กรมทางหลวง จะยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษ หรือ มอเตอร์เวย์ รวม 2 สายทาง ประกอบด้วย

ทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา)
ทางหลวงพิเศษ หมายเลข 9 (ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ)

วัน-เวลา เปิดใช้มอเตอร์เวย์ฟรี
ตั้งแต่เวลา 00.01 นาฬิกา ของวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 2 มกราคม 2568

รายละเอียดเส้นทาง มอเตอร์เวย์ฟรี

ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7

สายกรุงเทพฯ - บ้านฉาง ตอนกรุงเทพฯ - เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางวัว) ทางแยกเข้าชลบุรี ทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ทางแยกเข้าพัทยา และตอนบ้านหนองปรือ - บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3 (บ้านอำเภอ)

ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9

ตอนพระประแดง - บางแค ช่วงพระประแดง - ต่างระดับบางขุนเทียน และตอนบางปะอิน - บางพลี

ที่มา - thansettakij

news-12112024-01

"Asian Highways" เสริมศักยภาพโลจิสติกส์ภาคอีสาน

กรมทางหลวงโดยโดยสำนักก่อสร้างทางที่ 2 ได้เร่งดำเนินการโครงการก่อสร้าง ทล.202 สายบ้านน้ำปลีก - บ้านหนองผือ จังหวัดอำนาจเจริญ แล้วเสร็จและเปิดให้ประชาชนสัญจรแล้ว

ทางหลวงสายนี้จะเป็นเส้นทางที่เสริมศักยภาพโครงข่ายเศรษฐกิจอีสานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และอำนวยความสะดวกในการเดินทางเชื่อมโยง 4 จังหวัดในภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ซึ่ง ทล. เล็งเห็นว่าการขนส่งสินค้าในเส้นทางสู่ภาคอีสานนับเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายทางหลวง Asian Highways เชื่อมโยงเวียดนาม - สปป.ลาว - ไทย - เมียนมา

ที่มา - bangkokbiznews

news-20241109-02

ทุบทิ้งแน่ 3 สะพานข้ามแยกใจกลางกรุง ลุยรถไฟฟ้าสายสีส้ม จับตาจราจรติดหนึบ

ทุบทิ้งแน่ 3 สะพานข้ามแยกใจกลางกรุง ลุยรถไฟฟ้าสายสีส้ม จับตาจราจรติดหนัก ช.การช่าง เข้าพื้นที่รื้อย้ายสาธารรูปโภค - เขตทางขุดเจาะอุโมงค์ใต้ดิน สร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม - กทม. วางแผน รฟม. จับมือแก้รถติด

การลงมือก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม) ของ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เอกชนฐานะคู่สัญญากับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

ในการนี้ บมจ.ช.การช่าง รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้างอุโมงค์และทางวิ่ง โดยลงพื้นที่รื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค และเขตทาง ส่งผลให้รฟม.ประกาศปิดเบี้ยงจราจร เริ่มวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไปเพื่อก่อสร้าง 5 สถานีแรก โดยเริ่มจากสถานีสายสีส้ม ประตูน้ำ เป็นพื้นที่แรก ในเดือนมกราคมปี 2568 และทยอยปิดเบี่ยงจราจร ในสถานีที่เหลือ โดยเฉพาะเขตพื้นที่ อ่อนไหว พื้นที่อนุรักษ์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ บนเกาะรัตนโกสินทร์ ที่ต้องระมัดระวัง

ที่น่าเป็นกังวลและส่งผลให้จราจรติดขัดคับคั่งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นั่นคือการทุบทิ้งสะพาน ข้ามแยกสำคัญๆ 3แห่ง ที่ดูแลโดย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขุดเจาะอุโมงค์ใต้ดิน  ซึ่งปัจจุบัน ทั้ง3 สะพานข้ามแยกรองรับปริมาณจราจรที่มาจากทั่วทุกสารทิศในเขตเมือง ส่งผลให้  กทม.มีความกังวลมากที่สุด ที่ต้องทุบทิ้ง หรือรื้อสะพานข้ามแยก 3 แห่ง ได้แก่ สะพานข้ามแยกประตูน้ำ  สะพานข้ามแยกราชเทวี และสะพานแยกถนนสุทธาวาส ตัดถนนจรัญสนิทวงศ์

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบส่งมอบถนนตลอดความกว้างเขตทางตามแนวถนนที่รถไฟฟ้าสายสีส้มผ่าน เพื่อให้ รฟม. ก่อสร้าง และส่งมอบคืน เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดว่าจะมีการลงนาม MOU ระหว่าง กทม.กับผู้ว่าการ รฟม.ในสัปดาห์นี้

ที่มา - thansettakij

sea-freight-2024

เปิด 3 ปัจจัยหนุนโลจิสติกส์ คลังสินค้าบูม อีวี - อีคอมเมิร์ซ - อิเล็กทรอนิกส์

มาร์คัส เบอร์เทนชอว์ กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายตัวแทนนายหน้า บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดโลจิสติกส์และคลังสินค้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เติบโตสูงจากแรงผลักดันทางเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา อุปทานรวมเพิ่มขึ้น 8.9% ครึ่งปีต่อครึ่งปี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (BMR) และเขตอีสเทิร์นซีบอร์ด อัตราการครอบครองอยู่ที่ 85% สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งเนื่องจากการดูดซับสุทธิที่สูงถึง 458,224 ตร.ม.

เป็นผลมาจากอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ ยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) และอิเล็กทรอนิกส์ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุปสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีคอมเมิร์ซยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ได้รับแรงกระตุ้นจากความต้องการในการจัดส่งแบบ Last-Mile ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมยานยนต์มีความต้องการพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มขึ้น ได้รับแรงหนุนจากการขยายฐานการผลิตและโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าที่สอดคล้องกับหลักการด้านความยั่งยืนทั่วโลก

ขณะที่การขนส่งทางอากาศเพิ่มขึ้น 15.9% ปีต่อปี เนื่องจากเติบโตของอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์การแพทย์ ในขณะที่การขนส่งทางบกก็มีส่วนสำคัญต่ออุตสาหกรรมลอจิสติกส์ โดยได้แรงหนุนจากการค้าข้ามพรมแดนกับจีนและมาเลเซีย การขนส่งทางรถไฟเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 51.3% ปีต่อปี บ่งชี้ถึงศักยภาพในการเคลื่อนย้ายสินค้าในอนาคต โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

ในส่วนของอุปทานในอนาคตโดยเฉพาะในเขตอีสเทิร์นซีบอร์ด มีความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องในศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการกำลังให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับอัตราการดูดซับของตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงระยะเวลาที่มีพื้นที่ว่าง อัตราค่าเช่ายังคงที่ที่ 158 บาท/ตร.ม. โดย BMR มีอัตราค่าเช่าสูงสุดที่ 230 บาท/ตร.ม. สำหรับอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียม ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้านลอจิสติกส์จะยังคงแข่งขันได้ โดยมีความต้องการที่ยั่งยืนจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อีคอมเมิร์ซ ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของระบบคลังสินค้าอัตโนมัติและโซลูชันที่ยืดหยุ่น

ปัจจุบันอุปทานรวมของคลังสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 8.9% ครึ่งปีต่อครึ่งปี แตะระดับ 6.27 ล้านตร.ม.ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 อุปทานใหม่คิดเป็น 9% ของอุปทานทั้งหมดที่เพิ่มในช่วงเวลานี้ ได้แรงหนุนจากหลายโครงการ ส่วนใหญ่ในชลบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี พร้อมกับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมเดิมที่มีอยู่

โดยเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงถือครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด เพิ่มขึ้น 9.9% จากครึ่งปีก่อน แตะระดับ 2.8 ล้านตร.ม. คิดเป็น 45% ของอุปทานคลังสินค้าทั้งหมด โดย 41% อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางที่สำคัญ อีสเทิร์นซีบอร์ดครองส่วนแบ่งเป็นอันดับสอง มีพื้นที่ 2.4 ล้านตร.ม. คิดเป็น 38% ของอุปทานคลังสินค้าโดยรวม

ที่มา - bangkokbiznews

Facebook Pagelike Widget

The most efficient online logistics media in Thailand.

Contact Info

Follow Us