News

news-20250619-01

ส่งออกญี่ปุ่นร่วงหนักสุดใน 8 เดือน! รถยนต์ไปสหรัฐฯ ดิ่งเกือบ 25% นักวิเคราะห์เตือน “สงครามการค้า” ฉุดเศรษฐกิจแดนซามูไร

การส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม 2568 ดิ่งลงอย่างน่าตกใจถึง 1.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ข้อมูลล่าสุดนี้ตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการค้าที่กำลังฉุดรั้งเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่หดตัวมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

แม้ตัวเลขการลดลงนี้จะน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 3.8% แต่ก็สวนทางกับการส่งออกที่เคยเติบโต 2% ในเดือนเมษายนอย่างสิ้นเชิง

สหรัฐฯ และจีน: ตลาดหลักที่ชะลอตัว

ข้อมูลจากกระทรวงการค้าของญี่ปุ่นเผยว่า การส่งออกไปยัง สหรัฐฯ ยังคงน่าเป็นห่วง โดยลดลงถึง 11.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่การส่งออกไปยัง จีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ก็ลดลง 8.8%

ที่น่าจับตาเป็นพิเศษคือ การส่งออกรถยนต์ทั่วโลกของญี่ปุ่นลดลง 6.9% โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกรถยนต์ไปยัง สหรัฐฯ ที่ร่วงหนักถึง 24.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 28.3% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดไปยังสหรัฐฯ ในปี 2567

เผชิญศึกภาษีซ้ำซ้อน

นอกจากภาษีนำเข้า 25% ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากรถยนต์และเหล็กจากญี่ปุ่นแล้ว ญี่ปุ่นยังต้องเผชิญกับ อัตราภาษีตอบโต้ (reciprocal tariff) 24% สำหรับสินค้าส่งออกอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ยิ่งเพิ่มความท้าทายให้กับการส่งออกของญี่ปุ่น

BOJ ส่งสัญญาณเตือน เศรษฐกิจซบเซา

ข้อมูลการส่งออกที่น่าผิดหวังนี้ถูกเผยแพร่เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกแถลงการณ์นโยบายการเงิน โดยระบุว่า "การเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะชะลอตัว" อันเนื่องมาจากปัจจัยด้านการค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและกำไรของภาคธุรกิจภายในประเทศ

BOJ ยังแสดงความกังวลว่า "เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนอย่างยิ่งว่า นโยบายการค้าและปัจจัยอื่นๆ ในแต่ละประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และเศรษฐกิจโลกจะตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้อย่างไร" โดยการส่งออกที่ลดลงได้ส่งผลกระทบต่อ GDP ของญี่ปุ่นแล้ว ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัว 0.2% ในไตรมาสที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นการหดตัวเชิงไตรมาสครั้งแรกในรอบ 1 ปี

ดุลการค้าขาดดุลหนัก การเจรจายังไร้ข้อสรุป

ในเดือนพฤษภาคม การนำเข้าของญี่ปุ่นก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลง 7.7% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์คาดไว้ ส่งผลให้ดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ขาดดุล 6.376 แสนล้านเยน ซึ่งแม้จะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงภาวะการค้าที่อ่อนแอ

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้แสดงความเห็นว่า ญี่ปุ่นเข้มงวดในการเจรจาการค้า หลังจากที่มีการเจรจาถึง 6 รอบระหว่างนายเรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาของญี่ปุ่น กับรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ฮาวเวิร์ด ลัตนิก และรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ ได้

สถานการณ์การส่งออกที่ย่ำแย่และการเจรจาการค้าที่ยังไม่คืบหน้า กำลังเป็นแรงกดดันสำคัญต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

news-20250512-01

ส่งออกไทยพุ่งทำสถิติใหม่! พ.ค. ทะลุ 1 ล้านล้านบาท โต 18.4% สูงสุดในรอบ 38 เดือน "พิชัย" มั่นใจปีนี้โต 2 หลัก


ส่งออกไทยพุ่งทำสถิติใหม่! พ.ค. ทะลุ 1 ล้านล้านบาท โต 18.4% สูงสุดในรอบ 38 เดือน "พิชัย" มั่นใจปีนี้โต 2 หลัก

การส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม สร้างสถิติใหม่ด้วยมูลค่าสูงถึง 31,044.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.025 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการขยายตัวถึง 18.4% และเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 โดยนับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 38 เดือน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) การส่งออกมีมูลค่ารวม 138,202 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 4.640 ล้านล้านบาท ขยายตัวได้ 14.9% โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากการเติบโตของสินค้าอุตสาหกรรมถึง 22.9% เช่น คอมพิวเตอร์และแผงวงจรไฟฟ้า นอกจากนี้ ตลาดส่งออกที่เติบโตโดดเด่นคือ สหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 35.1% และ จีนที่เพิ่มขึ้น 28.0%

นายพิชัยแสดงความมั่นใจว่าปีนี้จะเป็น "ปีทองของการส่งออก" โดยไม่ได้มาจากเพียงแค่นโยบายต่างประเทศของบางประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นผลมาจากการนำเข้าสินค้าทุนและการลงทุนที่ส่งเสริมให้การส่งออกเติบโตเป็นบวก และมั่นใจว่าสิ้นปีนี้ตัวเลขส่งออกจะขยายตัวแตะสองหลัก หรือไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งดีกว่าที่หลายหน่วยงานคาดการณ์ว่าจะติดลบ

ด้าน นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวเสริมว่า ในเดือนพฤษภาคม การนำเข้าของไทยมีมูลค่า 29,928 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 18% หรือคิดเป็น 1.001 ล้านล้านบาท ทำให้ไทยเกินดุลการค้า 1,116 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากต้องการให้การส่งออกทั้งปีขยายตัวได้ 10% ช่วง 7 เดือนที่เหลือของปีนี้จะต้องส่งออกให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 27,482.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า อยู่ที่ระดับ 88.1 ซึ่งลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 89.9 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงในภาคอุตสาหกรรมบางส่วน

news-20250423-01

"คมนาคม" คว้างบกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 หมื่นล้าน! พร้อมลุยโครงการลงทุนขนาดเล็ก ก.ค. นี้

กระทรวงคมนาคม ภายใต้การนำของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมรับจัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 4 หมื่นล้านบาท จากวงเงินรวม 1.57 แสนล้านบาท ที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณฯ ได้พิจารณาในส่วนของกระทรวงคมนาคม ซึ่งเดิมเสนอขอไป 6 หมื่นล้านบาท

นายสุริยะ เปิดเผยว่า กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ได้จัดเตรียมโครงการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างไว้พร้อมแล้ว เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันการลงทุนระยะสั้น และเร่งให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาด 5-15 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ตามกำหนดในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ โดยจะต้องรอผลสรุปยอดจัดสรรที่ชัดเจนจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ นายสุริยะยังกล่าวถึงกรณีที่คิงเพาเวอร์เสนอขอแก้ไขสัญญาร้านค้าปลอดอากรในสนามบินภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ ซึ่งอยู่ในความดูแลของ AOT ว่า ต้องการให้ผู้บริหารทั้งสององค์กรเจรจาเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ทำให้ AOT ยังคงมีรายได้เท่าเดิม โดยหลีกเลี่ยงการเปิดประมูลหรือทำสัญญาใหม่ เนื่องจากยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า AOT จะได้รับผลประโยชน์เท่าเดิมหรือไม่หากมีการเปลี่ยนแปลงสัญญา

news-20250618-01

"ดูไบเวิลด์" รุกหนักอาเซียน! ลงทุนเวียดนาม-ฟิลิปปินส์ต่อเนื่อง พร้อมแสดงเจตจำนงร่วมโปรเจกต์ "แลนด์บริดจ์ไทย"

DP World บริษัทโลจิสติกส์ยักษ์ใหญ่จากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการดำเนินงานท่าเรือ การบริการทางทะเล และเขตการค้าเสรี กำลังขยายอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เข้าลงทุนในเวียดนามและฟิลิปปินส์อย่างหนักหน่วง พร้อมแสดงความสนใจอย่างยิ่งที่จะร่วมลงทุนใน โครงการแลนด์บริดจ์ ของประเทศไทย

รุกคืบเวียดนาม: เปิดเส้นทาง Mekong Express ย่นเวลาขนส่ง 70%

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา DP World ได้ประกาศความร่วมมือกับ VIMC Container Lines Joint Stock Company (VIMC Lines) ของเวียดนาม เปิดตัวเส้นทางขนส่งทางทะเล-แม่น้ำภายในประเทศสายใหม่ชื่อ "Mekong Express" เส้นทางนี้เชื่อมระหว่างท่าเรือ Can Tho (Cai Cui) และ Cai Mep ซึ่งจะช่วยลดเวลาการขนส่งทางน้ำจากเดิม 48 ชั่วโมง เหลือเพียง 15 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทางผสมผสานทั้งทางน้ำและทางทะเล ซึ่งมีระยะทางสั้นกว่าเส้นทางเดิมถึง 70% ทำให้การขนส่งรวดเร็ว ยั่งยืน และคุ้มค่าต้นทุนมากขึ้น

Mekong Express ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับสินค้าแห้งและสินค้าแช่เย็น สามารถขนส่งตู้สินค้าได้หลายร้อย TEU ต่อเที่ยว และรองรับตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็นได้จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายเส้นทางให้บริการไปยัง Saigon Premier Container Terminal (SPCT) ที่ DP World ดำเนินการ และ Saigon Hiep Phuoc Port ภายใต้ VIMC ด้วย การเพิ่มการเชื่อมต่อนี้จะช่วยเสริมสร้างบทบาทของเวียดนามในเครือข่ายโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เวียดนามใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (MDKER) และภูมิภาคเศรษฐกิจสำคัญทางใต้ (SKER)

ทุ่มงบเสริมแกร่งท่าเรือฟิลิปปินส์: 100 ล้านดอลลาร์ ยกระดับ Manila South Harbour

อีกด้านหนึ่ง DP World ร่วมกับ Asian Terminals Inc. (ATI) พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ได้เสร็จสิ้นโครงการสำคัญในการปรับปรุง Manila South Harbour (MSH) ซึ่งเป็นประตูการค้าระหว่างประเทศชั้นนำของฟิลิปปินส์ ด้วยงบลงทุนประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โครงการนี้ประกอบด้วยการขยายท่าเทียบเรือ 3 ให้ยาวกว่า 600 เมตร ขยายลานจอดรองรับตู้สินค้าได้ถึง 20,000 TEU เพิ่มเครน Ship-to-Shore (STS) ใหม่ 2 ตัว และจัดซื้ออุปกรณ์บนบกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สุลต่านอาเหม็ด บิน สุลาเยม ประธานและซีอีโอของ DP World Group ยืนยันความมุ่งมั่นของ DP World ในการเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลฟิลิปปินส์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการค้าที่สำคัญ การลงทุนในท่าเรือและโลจิสติกส์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับห่วงโซ่อุปทานและสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทของ DP World ในฐานะผู้สนับสนุนการค้าและผู้นำด้านโลจิสติกส์อัจฉริยะ

ผลจากการลงทุนนี้ ทำให้ MSH มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยในปี 2024 จัดการตู้คอนเทนเนอร์เกือบ 1.3 ล้าน TEU เพิ่มขึ้นเกือบ 8% จากปีก่อน และในไตรมาสแรกของปี 2025 ยอดตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างประเทศพุ่งสูงกว่า 350,000 TEU เพิ่มขึ้นกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 ซึ่งบ่งชี้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นของฟิลิปปินส์

DP World สนแลนด์บริดจ์ไทย: ยืนยันความมั่นใจในโครงการเมกะโปรเจกต์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมร่วมกับบริษัท DP World เพื่อหารือถึงความพร้อมในการลงทุนใน โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ และเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือ Landbridge (แลนด์บริดจ์)

DP World ยังคงแสดงความสนใจอย่างต่อเนื่องในโครงการนี้ และต้องการนัดหารือกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อีกครั้งเพื่อยืนยันความพร้อมในการพัฒนาโครงการ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมั่นใจว่าโครงการแลนด์บริดจ์จะเดินหน้าตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ โดยขณะนี้ DP World อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลโครงการเพื่อประเมินวงเงินลงทุน และอาจมีการปรับรายละเอียดของแผนลงทุนแต่ละระยะเพิ่มเติมจากผลการศึกษาของฝ่ายไทย

ผลการศึกษาของ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แบ่งการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ออกเป็น 4 ระยะ:

ระยะที่ 1 (ประมาณ 5.22 แสนล้านบาท): พัฒนาท่าเรือบางส่วน โดยท่าเรือฝั่งระนองรองรับ 6 ล้าน TEU และท่าเรือฝั่งชุมพรรองรับ 4 ล้าน TEU พร้อมพัฒนาโครงการรถไฟและมอเตอร์เวย์ 4 ช่องจราจร คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2573
ระยะที่ 2 (ประมาณ 1.64 แสนล้านบาท): ขยายขีดความสามารถท่าเรือ โดยท่าเรือฝั่งระนองรองรับ 12 ล้าน TEU และท่าเรือฝั่งชุมพรรองรับ 8 ล้าน TEU พร้อมขยายมอเตอร์เวย์เป็น 6 ช่องจราจร คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2576
ระยะที่ 3 (ประมาณ 2.28 แสนล้านบาท): ขยายขีดความสามารถท่าเรือ โดยท่าเรือฝั่งระนองรองรับ 20 ล้าน TEU และท่าเรือฝั่งชุมพรรองรับ 14 ล้าน TEU คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2578
ระยะที่ 4 (ประมาณ 8.51 หมื่นล้านบาท): ขยายขีดความสามารถท่าเรือฝั่งชุมพรให้รองรับ 20 ล้าน TEU พร้อมขยายโครงการพัฒนาพื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า (SRTO) คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2581


การที่ DP World ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับโลกในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้ความสนใจในโครงการแลนด์บริดจ์ของไทย ถือเป็นสัญญาณบวกที่สำคัญ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและวิสัยทัศน์ของโครงการที่จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าและเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้

Facebook Pagelike Widget

The most efficient online logistics media in Thailand.

Contact Info

Follow Us