admin L2D

pic2 (69)

เศรษฐกิจสายมู ซอฟต์พาวเวอร์ไทย ส่งออก ‘พระเครื่อง’ ไกลถึง ‘จีน’

“พระเครื่อง” และจักรวาลแห่งความเชื่อในวงการพุธศาสนาไทยกำลังแสดงมนต์ขลังด้วยการเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย” เพราะดารานักแสดงทั่วโลกให้ความสนใจ แบบที่ไม่ต้องโปรโมท และกำลังกลายเป็นเศรษฐกิจสายมูที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท

“พระเครื่อง” สินค้าส่งออกที่ไม่ธรรมดา

“พระเครื่อง” ไม่ได้เป็นเพียงวัตถุมงคลที่ผู้คนเคารพสักการะ แต่ในปัจจุบันนี้ปฎิเสธไม่ได้ว่ากลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ตลาดพระเครื่องในประเทศไทยมีมูลค่าการเช่าพระ (ซื้อขาย) หมุนเวียนปีละหลายหมื่นล้านบาท และกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยว “ชาวจีน” ที่มีที่มีความเลื่อมใสในพุทธคุณและนิยมสะสมพระเครื่อง

 

จักรวาลความเชื่อ=ซอฟต์พาวเวอร์ไทย

สิ่งทีี่น่าสนใจ ถ้าหากชาวจีนกำลังจะกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของตลาดพระเครื่องไทย 3 สิ่งสำคัญที่สะท้อนออกมาได้อย่างชัดเจน คือ

1.การขยายตลาดพระเครื่องไทยให้ใหญ่ขึ้น เพราะในปัจจุบันตลาดพระเครื่องไทยใหญ่ที่สุดในเอเชีย

2.จีนมีกำลังซื้อ สู้ราคาและต้องการจำนวน ทำให้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเพียงแค่พระเก่าแก่อายุหลายร้อยปีเท่านั้น

3.พระไทย ต้องมาซื้อที่ไทยซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการท่องเที่ยวและเม็ดเงินที่หมุนเวียนในเศรษฐกิจมูเตลู

ไม่เพียงพระเครื่องเท่านั้นที่กำลังกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทย แต่จักรวาลความเชื่อที่เกิดขึ้นในวงการพุธศาสนากำลังแสดงมนต์ขลังแบบที่ไม่ต้องโปรโมท เช่น ดารานักแสดงระดับโลกอย่าง "แองเจลินา โจลี" และ "แบรด พิตต์" รวมถึง “ฟาบิโอ คันนาวาโร” อดีตกองหลังทีมชาติอิตาลี ต่างหลงใหลการ“สักยันต์”ของอาจารย์หนู กันภัย หรือ “เอ็ด ชีแรน” นักร้องดังชาวอังกฤษ ได้สักยันต์กับอาจารย์เหน่งระหว่างมาทัวร์คอนเสิร์ตที่ไทย

Cr: bangkokbiznews

pic1 (65)

'ภาคขนส่ง' จ่อพบนายกฯ ขอความชัดเจนอุดหนุนราคา 'ดีเซล'

"ภาคขนส่ง" ขอพบนายกฯ ฟังนโยบายดูแลพลังงาน หลัง "กองทุนน้ำมัน" ติดลบกว่าแสนล้าน หวังเป็นแนวทางการกำหนดราคากับผู้จ้างงาน ระบุ "ดีเซล" ปรับขึ้น 1 บาท กระทบต้นทุน 3% ทันที

เหตุผลสำคัญของการปรับเพดานราคาดีเซลในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 14 เม.ย.2567 ติดลบ 103,620 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน ติดลบ 56,407 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 47,213 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับการติดลบสูงที่สุดของรัฐบาล "เศรษฐา ทวีสิน" นับตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ 7 เดือน

 

"ตอนนี้ก็มีการเจรจากับผู้ว่าจ้างแล้วว่าราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นซึ่งผู้จ้างก็ขอให้เราคงราคาค่าขนส่งไปก่อน เขาจะมีปัญหาเรื่องตลาดอีก หากขึ้นแล้วก็จะไปสู้รายอื่นไม่ได้ มันโยงกันหมดเป็นลูกโซ่เป็นทอดๆ ยอมรับว่าทุกวันนี้การทำธุรกิจก็ต้องแข่งขัน จริงๆ ผู้ประกอบการหลักๆ ที่ยังอยู่ได้ เพราะพื้นฐานเก่าเขาดีอยู่ แต่ถ้าพื้นฐานไม่ดีจริงก็เลิกไปเยอะ โดยปัจจุบันนี้มีการเลิกกิจการไปไม่ต่ำกว่า 30%"

ดังนั้น การที่รัฐบาลปรับราคาน้ำมันจริง ๆ 1 บาท ภาคขนส่งก็จำเป็นจะต้องขึ้น 3% ดังนั้นจึงต้องขอคุยกับภาครัฐก่อนถึงนโยบาย เพื่ออธิบายกับผู้ว่าจ้างตามความเป็นจริง ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับทางนายกฯ อยู่ คาดว่าภายในเดือนนี้น่าจะได้หารือกับรัฐบาล ยืนยันว่าจะไม่ไปประท้วง เพราะที่ผ่านมาไม่เห็นผลอะไร และเสียเงินเป็นแสนๆ จึงจะไปในลักษณะตัวแทนของ 10 สมาคมฯ มากกว่า

Cr: bangkokbiznews

pic3 (67)

ส่องตลาด 'สแน็ค' เพื่อสุขภาพ โอกาสทองผู้ประกอบการ ชิงมาร์เก็ตแชร์ 1 แสนล้าน

พาณิชย์ เผยตลาดค้าปลีกสแน็คของไทย ในปี 2566 มีมูลค่า 105,200.7 ล้านบาท ชี้ การบริโภคสินค้าสแน็คเพื่อสุขภาพเติบโตต่อเนื่อง จีนครองตลาดส่งออกสแน็คอันดับ 1 คาดเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทย แนะยึดเทรนด์สิ่งแวดล้อม

 

สินค้าสแน็คเพื่อสุขภาพในตลาดไทย ที่มีมูลค่าสูง 5 อันดับแรก ได้แก่

·        สแน็คที่ไม่มีน้ำตาล (No Sugar Snacks) 4,378.1 ล้านบาท

·        สแน็คที่ไม่มีกลูเตน (Gluten Free Snacks) 2,991.7 ล้านบาท

·        สแน็คที่เพิ่มวิตามิน (Good Source of Vitamins Snacks) 2,872.2 ล้านบาท

·        สแน็คที่มีโปรตีนสูง (High Protein Snacks) 2,654.3 ล้านบาท

·        สแน็คที่มีไฟเบอร์สูง (High Fiber Snacks) 1,858.4 ล้านบาท ในปี 2566

สำหรับสินค้าที่มีการเติบโตโดดเด่น คือ สแน็คจากพืช (Plant-Based Snacks) ร้อยละ 56.6 สแน็คที่มีโปรตีนสูง (High Protein Snacks) 22.5% และสแน็คที่ไม่เติมน้ำตาลเพิ่ม (No Added Sugar Snacks)  20.9 %

 

จากข้อมูลของ Global Trade Atlas (GTA) สถิติการส่งออกสแน็คของไทย (คัดเลือกและจัดกลุ่มสินค้าโดย สนค. เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพสินค้า) พบว่า ในปี 2566 มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 1,954.7 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว  5.8 %  จากปีก่อนหน้า

1. กลุ่มของทานเล่นรสหวาน มีมูลค่าการส่งออก 1,082.3 ล้านดอลลาร์

2. กลุ่มของทานเล่นรสเค็มหรือเผ็ด มีมูลค่าการส่งออก 505.5 ล้านดอลลาร์

3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมหวานชนิดต่าง ๆ ทำด้วยน้ำตาล มีมูลค่าการส่งออก 220.4 ล้านดอลลาร์

4. ไอศกรีม มีมูลค่าการส่งออก 146.6 ล้านดอลลาร์ สินค้าสแน็คของไทยที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น ช็อกโกแลตและอาหารปรุงแต่งอื่น ๆ

Cr: bangkokbiznews

pic2 (68)

ผลไม้อาเซียนสู่ตลาดจีนมากขึ้นผ่านช่องทางใหม่ทางบกและทะเลภาคตะวันตกของจีน

ปีหลังๆ นี้ ผลจากการสร้างช่องทางใหม่ทางบก-ทางทะเลภาคตะวันตก (New Western Land-sea Corridor) ของจีน เป็นช่องทางสนับสนุนผลไม้อาเซียนสู่ตลาดจีนมากขึ้น

 

เวลานี้ มีการเปิดสายด่วนผลไม้จากเมืองท่าชินโจวสู่ประเทศไทย เวียดนาม และประเทศอื่น พร้อมเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานครบชุด เช่น โคล์เชน (การแช่แข็ง) และโกดังแช่แข็งสำหรับผลผลิตทางการเกษตรอาเซียนในการเข้าสู่จีน

ช่องทางใหม่ทางบก-ทางทะเลภาคตะวันตก (New Western Land-sea Corridor) ของจีนเป็นช่องทางใหม่ทำการค้าขายทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศที่เชื่อมพื้นที่ทางภาคตะวันตกของจีนกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยการขนส่งทางรถไฟ ทางทะเล และทางหลวง จรดมาทางใต้ที่อ่าวเป่ยปู้ เขตกว่างซีของจีน และสู่สารทิศทั่วโลก

Cr: thai.cri.cn

Facebook Pagelike Widget

The most efficient online logistics media in Thailand.

Contact Info

Follow Us