"ยุทธศาสตร์ 2D" ที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย นำมาใช้เป็นกระดูกสันหลังในการพัฒนา พร้อมขึ้นแท่นฮับเป็นขนส่งทางน้ำ และท่าเรือสีเขียวชั้นนำของโลก

แน่นอนว่าการขนส่งทางทะเลมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เพราะมีส่วนช่วยผลักดันการค้าทั่วโลกถึง 90% แต่ปัญหาที่ชวนปวดหัวก็คือ ระบบการจัดการท่าเรือนั้นกำลังมุ่งทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมลพิษทางน้ำ อากาศ การปนเปื้อนสารอันตราย รวมถึงปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 3% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2050

ทั้งนี้ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคม กำลังเร่งผลักดันแนวคิดในการมุ่งสู่การเป็นท่าเรือสีเขียว ที่ลดมลพิษทั้งทางน้ำ อากาศ และตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ในอนาคต 

เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวในงานงานสัมมนา POSTTODAY Thailand Smart City 2025 การจัดการเมืองอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีและ AI เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต” ในหัวข้อ Smart Port For Green Ecocomy ว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง และช่วยเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งสินค้า พร้อมตั้งเป้าลดคาร์บอนเป็นศูนย์ ในปี 2050

คำถามสำคัญคือ เราจะจัดการท่าเรืออย่างไรให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม?
คำตอบของคำถามเมื่อครู่ สามารถสรุปได้ภายใน 2 คำ นั่นคือ 2D โดยย่อมาจากคำว่า Digitalization = การนำเทคโนโลยีมาใช้ และ Decarbonization ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน รวมถึงการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์มาใช้ในการขับเคลื่อนเพื่อลดของเสีย 

นายเกรียงไกร เปิดเผยว่า นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสสตร์ ที่ท่าเรือของไทยได้เพิ่มขีดความสามารถขนส่งสินค้าได้ 10.7ล้านตู้ อีกทั้งยังมีปริมาณการนำเข้า และส่งออกใกล้เคียงกัน และเราให้ความสำคัญกับการดึงศักยภาพของท่าเรือชั้นนำโลกนำมาปรับใช้กับท่าเรือในประเทศ

ทั้งนี้ นายเกรียงไกรยังเปิดเผยอีกว่า การนำเทคโนโลยี และการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นเรื่องที่มีความเชื่อมโยงกัน เพื่อให้การสนับสนุนภาคธุรกิจด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น

ที่มา - springnews