การส่งออกของไทยในเดือนเมษายน 2568 ยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตไว้ได้อย่างน่าประทับใจ โดยขยายตัว 10.2% คิดเป็นมูลค่า 25,625.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 857,700 ล้านบาท ถือเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันที่การส่งออกขยายตัว สะท้อนถึงศักยภาพของภาคเศรษฐกิจไทยที่ยังแข็งแกร่ง แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่เริ่มส่งแรงกดดันเข้ามา
หากตัดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัยออก การส่งออกยังเติบโตถึง 7.1% โดยกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรอุตสาหกรรมยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ สินค้าสำคัญที่มีการเติบโต อาทิ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาง แผงวงจรไฟฟ้า และอัญมณี (ไม่รวมทองคำ) ซึ่งหนุนให้ภาพรวม 4 เดือนแรกของปีนี้การส่งออกขยายตัว 14% หรือ 12.1% หากไม่รวมสินค้าในกลุ่มพิเศษ
ตลาดส่งออกหลักยังคงเติบโตได้ดี ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และสหภาพยุโรป โดยเฉพาะอาเซียนที่โตต่อเนื่อง 2 เดือนที่ 7.8% เอเชียใต้โต 8.7% สหภาพยุโรปขยายตัว 6.1% และญี่ปุ่น 5.5% ส่วนจีนโต 3.2% ติดต่อกันถึง 7 เดือนแล้ว
ในด้านการค้า กระทรวงพาณิชย์เตรียมเปิดฉากเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรปอย่างจริงจัง หวังสรุปภายในสิ้นปี 2568 โดยรมว.พาณิชย์ เตรียมเข้าพบกรรมาธิการการค้าของอียู และองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อเร่งให้การเจรจาเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเปิดประตูโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทยได้อย่างมีนัยสำคัญ
ในขณะเดียวกัน นายพิชัยยังระบุว่า การเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อให้ไทยได้รับสิทธิทางภาษีเท่าเทียมกับประเทศอื่นๆ คืบหน้าไปมาก และอาจได้ข้อสรุปภายใน 90 วันข้างหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกไทยในตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้านนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า แม้การส่งออกจะเติบโต แต่การนำเข้าก็ขยายตัวแรงเช่นกัน โดยเดือนเมษายนมีมูลค่า 28,946.4 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 16.1% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 3,321.3 ล้านดอลลาร์ สำหรับช่วง 4 เดือนแรกของปี การนำเข้ารวมอยู่ที่ 109,397.8 ล้านดอลลาร์ ขาดดุลการค้าสะสมที่ 2,240.3 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรมยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ 8.4% แม้สินค้าบางกลุ่มยังเติบโตได้ เช่น ยางพารา ไก่แปรรูป น้ำตาล และอาหารสัตว์เลี้ยง แต่สินค้าหลักอย่างข้าว ผลไม้สด และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังยังคงติดลบอย่างต่อเนื่อง
ตรงกันข้ามกับสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง 16.6% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 สะท้อนถึงแนวโน้มการผลิตเพื่อส่งออกที่ยังมีแรงหนุน แม้สินค้าบางกลุ่มเริ่มชะลอตัว เช่น รถยนต์ เครื่องจักรกล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางประเภท
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งออกในทุกมิติ ทั้งการกระจายตลาด การเร่งเจรจา FTA และการลดความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้า เพื่อให้ไทยสามารถรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจไว้ได้ แม้จะเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลังที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น
ที่มา - thaipbs