กระทรวงคมนาคม กำลังเร่งผลักดันแอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่ของภาครัฐอย่าง "SAWASEEE by AOT" เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้โดยสารในสนามบิน และหวังแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ผู้ขับขี่แท็กซี่มิเตอร์ต้องเผชิญจากการแข่งขันกับแพลตฟอร์มเอกชน โดยคาดว่าจะเปิดใช้งานจริงในเร็ว ๆ นี้

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้หารือร่วมกับสมาคมผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ เพื่อหาแนวทางสร้างความเป็นธรรม โดยมีประเด็นหลักที่ถูกยกขึ้นมาพิจารณาคือ การตั้งจุดให้บริการในสนามบิน ซึ่ง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้ชี้แจงว่าจะมีการจัดสรรพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ชัดเจนเพื่อแบ่งโซนสำหรับแท็กซี่สาธารณะและรถแอปพลิเคชัน เพื่อป้องกันปัญหาการทับซ้อนและสร้างความเท่าเทียมในการให้บริการ

นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้ ทอท. เพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลจุดพักรถแท็กซี่และปรับปรุงป้ายประชาสัมพันธ์ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และจะประสานสายการบินให้ช่วยประชาสัมพันธ์บริการแท็กซี่สาธารณะให้ชัดเจน เพื่อเพิ่มโอกาสให้แท็กซี่มิเตอร์ได้รับงานอย่างเท่าเทียม

หัวใจสำคัญของการแก้ปัญหานี้คือการเปิดตัวแอปพลิเคชัน "SAWASEEE by AOT" ซึ่งเป็นระบบกลางที่ช่วยให้แท็กซี่มิเตอร์สามารถรับงานได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม มีระบบจองคิวและจุดจอดเฉพาะ นับเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่แท็กซี่ที่ต้องการเข้าถึงผู้โดยสารโดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มของเอกชน โดยขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้งานที่สนามบิน ก่อนจะเปิดให้บริการจริงในไม่ช้า

นายสุรพงษ์ ย้ำว่า กระทรวงคมนาคมยึดหลักความเป็นธรรมและกฎหมาย เพื่อให้ทุกฝ่ายมีสิทธิเข้าถึงโอกาสอย่างเสมอภาค โดยได้มอบหมายให้ ขบ. และ ทอท. ร่วมกันทบทวนกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ เพื่อสร้างระบบบริการขนส่งที่เป็นธรรมในระยะยาว

ด้าน น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เผยว่า ปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิมีแท็กซี่มิเตอร์ให้บริการเฉลี่ยวันละ 6,000 เที่ยว ขณะที่แท็กซี่จากแอปพลิเคชันมีประมาณ 5,000 เที่ยว และรถส่วนบุคคลในระบบแอปพลิเคชันอีกราว 4,000 เที่ยวต่อวัน ทั้งนี้ ทอท. พร้อมปรับปรุงพื้นที่จอดแท็กซี่ให้ทันสมัย มีป้ายไฟชัดเจน รวมถึงจัดสร้างห้องน้ำสำหรับผู้ขับขี่ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของบริการแท็กซี่มิเตอร์ในสนามบินให้เป็นระบบยิ่งขึ้น