พาณิชย์คาดส่งออกไทยปี 2569 ได้รับผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ แต่ยังมีโอกาสเติบโตบางกลุ่มสินค้า
นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการประเมินเบื้องต้น การส่งออกสินค้าของไทยในปี 2569 อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ภายใต้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการจัดเก็บภาษีตอบโต้สินค้าจากไทยในอัตรา 19% ตลอดทั้งปี แม้แรงกดดันดังกล่าวอาจทำให้การส่งออกชะลอตัวลงจากปี 2568 แต่กระทรวงพาณิชย์เชื่อว่าการส่งออกไทยจะไม่ตกต่ำอย่างรุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล และยังมีแนวโน้มเติบโตในบางอุตสาหกรรม
หนึ่งในกลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งคือ อาหารสำเร็จรูป ซึ่งผู้ประกอบการระบุว่าสินค้าของไทยยังสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งในตลาดสหรัฐฯ ได้ดี โดยเฉพาะในด้านคุณภาพและความแข็งแกร่งของแบรนด์ อาหารกระป๋อง อาหารพร้อมรับประทาน ขนมขบเคี้ยว และซอสปรุงรสจากไทย ยังคงเป็นที่ต้องการสูงในหลายประเทศ รวมถึงตลาดสหรัฐฯ ที่ถือเป็นตลาดมาร์จิ้นสูงสุด แม้อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้น แต่ผู้ประกอบการไทยยังเชื่อมั่นว่าสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันได้ เนื่องจากจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญ อาจถูกจัดเก็บภาษีตอบโต้ในอัตราที่สูงกว่าไทย
ในทำนองเดียวกัน กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับของไทยก็ยังมีศักยภาพในการแข่งขันกับอินเดียในตลาดสหรัฐฯ เพราะอินเดียเองก็เผชิญการจัดเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าเช่นกัน ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้สินค้าของไทยบางประเภทสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้ แม้อยู่ท่ามกลางสภาวะการค้าระหว่างประเทศที่ตึงตัว
ข้อมูลการวิเคราะห์เบื้องต้นของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า สินค้าไทยที่ส่งออกไปสหรัฐฯ 20 อันดับแรก มีถึง 18 รายการที่จีนเป็นคู่แข่งหลัก การที่จีนถูกเก็บภาษีสูงกว่ามาก จะเปิดโอกาสให้สินค้าจากไทยเข้าไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ ได้ในบางหมวดหมู่ ถือเป็นจุดแข็งที่ไทยสามารถใช้ประโยชน์ได้ในระยะสั้นถึงกลาง
ขณะเดียวกัน “ทีมไทยแลนด์” ซึ่งเป็นคณะเจรจาของไทย ได้เดินหน้าหารือกับสหรัฐฯ เพื่อจัดทำข้อตกลงทางการค้า โดยเน้นเจรจาในประเด็นทางเทคนิคสำคัญ เช่น การเปิดตลาด การลดและยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี มาตรฐานสินค้า มาตรฐานสุขอนามัย และการค้าบริการ โดยตั้งเป้าหมายปิดการเจรจาให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อสร้างความชัดเจนทางการค้าสำหรับผู้ประกอบการไทย
ส่วนในประเด็น “กฎถิ่นกำเนิดสินค้า” ซึ่งจะกำหนดว่าสินค้าที่ส่งออกจากไทยจะต้องมีสัดส่วนวัตถุดิบหรือส่วนประกอบจากประเทศใดบ้างจึงจะได้รับสิทธิเสียภาษีในอัตรา 19% นั้น คาดว่าสหรัฐฯ จะไม่เจรจาแบบทวิภาคีกับแต่ละประเทศ แต่จะกำหนดเป็นมาตรฐานเดียวกันให้ทุกประเทศต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและลดความซับซ้อนของกฎเกณฑ์ทางภาษี
แม้จะต้องเผชิญแรงกดดันจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ แต่กระทรวงพาณิชย์ยังคงมองว่าการส่งออกของไทยในปี 2569 จะสามารถประคองตัวได้ โดยมีบางอุตสาหกรรมที่ยังมีโอกาสขยายตัว โดยเฉพาะสินค้าที่มีความได้เปรียบเชิงคุณภาพและมาตรฐานการผลิต ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญของสินค้าไทยในตลาดโลก.

