คมนาคมยกระดับ “FIT TO DRIVE” รับปีใหม่ 2569 คุมเข้มรถ–คนขับทั่วประเทศ ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุไม่ต่ำกว่า 5%

กระทรวงคมนาคมเดินหน้ายกระดับมาตรการความปลอดภัยรับเทศกาลปีใหม่ 2569 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเดินทางหนาแน่นที่สุดของปี ภายใต้แคมเปญ “FIT TO DRIVE ร่วมสร้างสุขทั่วไทย ปลอดภัยทุกเส้นทาง” เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนตลอดการเดินทาง โดยตั้งเป้าลดอุบัติเหตุทางถนนลงอย่างน้อย 5% และลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมด้านระบบขนส่งอย่างรอบด้าน ทั้งการจัดรถเสริม การบริหารจัดการปริมาณผู้โดยสาร และการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ เพื่อดูแลประชาชนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยกรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานขับรถผ่านจุดอำนวยความสะดวกและจุดตรวจความปลอดภัยกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งช่วงขาไปและขากลับ

นายพิพัฒน์ ระบุว่า เทศกาลปีใหม่ยังคงเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง จึงขอความร่วมมือประชาชน โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ให้สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง งดขับขี่ขณะมึนเมา และช่วยกันดูแลเตือนกันในสังคม เพื่อลดความสูญเสีย โดยกระทรวงคมนาคมตั้งเป้าให้การขนส่งสาธารณะทุกประเภทมีอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตเป็นศูนย์ เพื่อให้การเดินทางในช่วงปีใหม่เป็นไปอย่างปลอดภัยและอุ่นใจ

ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมฯ ได้ดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด ทั้งการตรวจความพร้อมรถโดยสาร ณ สถานประกอบการ การซักซ้อมการปฏิบัติงานของผู้จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง หรือ TSM รวมถึงการใช้ระบบรายงานตรวจสอบความพร้อมรถและพนักงานขับรถออนไลน์ “เช็กชัวร์ Ready to go” เพื่อยกระดับการตรวจความพร้อมก่อนปล่อยรถออกให้บริการทุกวัน

สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ กรมการขนส่งทางบกจะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบและกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัย ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดจอดรถ จุดตรวจ และจุดพักรถ รวมทั้งสิ้น 219 แห่งทั่วประเทศ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากความประมาทและความไม่พร้อมของรถหรือผู้ขับขี่

นอกจากนี้ ยังมีการใช้ระบบ GPS ตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถของพนักงานขับรถตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชัน DLT GPS Notice เพื่อควบคุมความเร็วและลดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าให้หลีกเลี่ยงการขนส่งในช่วงเทศกาล และงดใช้รถเปล่า เพื่อลดปัญหาการจราจรหนาแน่นบนถนนสายหลัก

ในส่วนของรถโดยสารสองชั้น กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดข้อจำกัดด้านความปลอดภัยอย่างชัดเจน โดยไม่อนุญาตให้วิ่งผ่านเส้นทางที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เส้นทางภูเขาและทางลาดชัน พร้อมกำหนดความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และติดตามการเดินรถผ่านระบบ GPS ทุกคันอย่างใกล้ชิด

นายสรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างเร่งออกมาตรการบังคับติดตั้งอุปกรณ์แจ้งเตือนด้านความปลอดภัย เพื่อยกระดับการป้องกันอุบัติเหตุและคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับรถใหม่ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2569 ส่วนรถที่จดทะเบียนก่อนหน้านี้จะให้มีผลบังคับใช้ภายในรอบการต่ออายุภาษีรถ