เศรษฐกิจไทย พ.ย. 2568 ส่งออกยังเป็นแรงหลัก พยุงการฟื้นตัว ท่องเที่ยวต่างชาติชะลอ ท่ามกลางความเสี่ยงชายแดน

เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2568 ยังขยายตัวได้จากแรงหนุนภาคการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังฟื้นตัวได้ช้า ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจยังต้องอาศัยแรงกระตุ้นจากภาครัฐและปัจจัยภายนอกเป็นสำคัญ โดยกระทรวงการคลังระบุว่ายังต้องติดตามผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาก่อนหน้า รวมถึงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป

ภาคการบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณทรงตัวจากปีก่อนหน้า สะท้อนจากยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งใหม่ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะชะลอลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น จากแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งพลัสและมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ความไม่แน่นอนบริเวณชายแดน รวมถึงรายได้ภาคเกษตรที่หดตัว ส่งผลให้การใช้จ่ายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ด้านการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในภาวะทรงตัว โดยการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวสะท้อนการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ยังหดตัว สะท้อนความระมัดระวังของภาคธุรกิจต่อทิศทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า

การส่งออกยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย โดยมูลค่าการส่งออกในเดือนพฤศจิกายน 2568 ขยายตัวร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และหากไม่รวมทองคำ น้ำมัน และยุทธปัจจัย การส่งออกขยายตัวสูงถึงร้อยละ 11.8 ตามการเติบโตอย่างโดดเด่นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี รวมถึงสินค้าเกษตรและอาหารบางประเภท ขณะที่การส่งออกข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และรถยนต์ยังคงหดตัว สำหรับตลาดคู่ค้าหลัก พบว่าการส่งออกไปยังอินเดีย สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปขยายตัวดี ในขณะที่ตลาดญี่ปุ่นและจีนยังชะลอลง

ภาคการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังฟื้นตัวได้จำกัด โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนพฤศจิกายนลดลงจากปีก่อนหน้า แม้จะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศยังขยายตัวได้เล็กน้อย ช่วยพยุงภาคบริการในประเทศท่ามกลางการฟื้นตัวที่ไม่สม่ำเสมอของนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ

ภาคการผลิตและอุตสาหกรรมเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ภาคธุรกิจยังคงจับตาความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์

ในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ หนี้สาธารณะยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ขณะที่ฐานะต่างประเทศของไทยยังแข็งแกร่งจากทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง สามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ในระยะหนึ่ง

โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี 2568 ยังขับเคลื่อนด้วยภาคส่งออกและมาตรการภาครัฐเป็นหลัก ขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศและการท่องเที่ยวต่างชาติยังฟื้นตัวได้อย่างจำกัด ทำให้ทิศทางเศรษฐกิจระยะต่อไปยังต้องอาศัยการติดตามปัจจัยเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด