แผนมอเตอร์เวย์ไทยก้าวสู่โครงข่ายเชื่อมประเทศ เดินหน้าก่อสร้าง–เปิดใช้–ประมูล PPP ครบวงรอบในทศวรรษหน้า
มอเตอร์เวย์ หรือทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่มีบทบาทสำคัญต่อการเชื่อมต่อภูมิภาค การขนส่งสินค้า และการยกระดับระบบโลจิสติกส์ของประเทศ กรมทางหลวงได้จัดทำแผนแม่บท MR–MAP ครอบคลุมระยะทางกว่า 6,800 กิโลเมตร โดยเกือบครึ่งหนึ่งเป็นการพัฒนาเส้นทางคู่ขนานระบบราง เพื่อเพิ่มศักยภาพโครงข่ายคมนาคมของไทยอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันประเทศไทยมีมอเตอร์เวย์เปิดใช้งานแล้ว 3 สาย รวม 282 กิโลเมตร ได้แก่ M7 กรุงเทพฯ–บ้านฉาง, M9 วงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก และดอนเมืองโทลล์เวย์ ส่วนโครงการที่กำลังก่อสร้างมีอีก 3 สายทาง รวม 317 กิโลเมตร ประกอบด้วย M6 บางปะอิน–นครราชสีมา ที่คืบหน้าเกือบเต็มร้อยและมีแผนให้ประชาชนใช้ฟรีในช่วงปีใหม่ 2569, M81 บางใหญ่–กาญจนบุรี ซึ่งงานโยธาเสร็จสิ้นและเปิดทดสอบตลอดสายตั้งแต่ปลายปี 2568 และ M82 บางขุนเทียน–บ้านแพ้ว ที่บางช่วงเปิดบริการแล้วและจะเปิดครบเส้นทางในช่วงสงกรานต์ปี 2569

กรมทางหลวงยังเดินหน้าการลงทุนด้านระบบควบคุมและการบำรุงรักษา (O&M) รวมถึงการพัฒนาพื้นที่บริการริมทาง โดยเตรียมเปิดประมูล PPP งานระบบของ M82 และพื้นที่พักริมทาง M6–M81 ภายในปี 2568 หลังปรับเกณฑ์ RFP ให้เหมาะสมกับความเสี่ยงด้านปริมาณจราจรของเส้นทางใหม่ โดยทั้งหมดคาดว่าจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบได้ในช่วงปี 2570–2571

ในด้านโครงสร้างพื้นฐานใหม่ รัฐเตรียมผลักดัน “มอเตอร์เวย์ M8 นครปฐม–ปากท่อ” ระยะทาง 61 กิโลเมตร วงเงินกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นเส้นทางลัดสู่ภาคใต้ โดยกรมทางหลวงอยู่ระหว่างรวบรวมความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอครม.ในปี 2569 ตั้งเป้าเริ่มจัดกรรมสิทธิ์ปีเดียวกันและเริ่มก่อสร้างในปี 2570 ก่อนทยอยเปิดใช้ช่วงแรกในปี 2575

ด้านยุทธศาสตร์ระยะยาว ประเทศไทยมีเป้าหมายสร้าง “วงแหวนมอเตอร์เวย์รอบกรุงเทพฯ” ให้ครบภายใน 10 ปี โดยเชื่อมกับเส้นทางหลักทุกภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ อีสาน ตะวันตก และใต้ ผ่านโครงการ M5, M6, M7, M8, M9 และ M82 เพื่อสร้างโครงข่ายสมบูรณ์ รองรับเมืองที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและการเดินทางระหว่างภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

แผนแม่บท MR–MAP ยังวางโครงข่ายมอเตอร์เวย์ “กระดูกสันหลัง” ของไทยอีกสี่เส้นทาง ได้แก่ MR1 เชียงราย–นราธิวาส เชื่อมภาคเหนือและใต้ผ่านเส้นสุพรรณบุรี–ชัยนาท–นครสวรรค์ และนครปฐม–ปากท่อ–ชะอำ–ปราณบุรี, MR2 กรุงเทพฯ/ชลบุรี–หนองคาย ซึ่งมี M6 และโครงการ M61 เป็นแกนหลักเชื่อมพื้นที่ EEC เข้าสู่อีสาน, MR9 สุราษฎร์ธานี–พังงา–ภูเก็ต ที่จะยกระดับทางหลวงหมายเลข 44 ให้เป็นมอเตอร์เวย์ยุทธศาสตร์สองฝั่งทะเล และ MR10 วงแหวนรอบนอก กทม. รอบที่สาม ซึ่งจะเป็นโครงข่ายใหญ่ที่สุดของประเทศครอบคลุมกว่า 331 กิโลเมตร

การลงทุนมอเตอร์เวย์ต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาล ทั้งงานโยธา ระบบควบคุม และค่าบำรุงรักษาตลอดอายุโครงการ ปัจจุบันรายได้กองทุนมอเตอร์เวย์จาก M7 และ M9 ราว 9 พันล้านบาทต่อปี แม้มีภาระด้าน O&M สูง แต่เมื่อ M6, M81 และ M82 เปิดใช้งานเต็มรูปแบบ รายได้ในกองทุนจะเพิ่มขึ้น ช่วยรองรับการขยายโครงข่ายในอนาคตได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี เพื่อให้การลงทุนมีความยั่งยืน กรมทางหลวงจึงเน้นการใช้รูปแบบร่วมลงทุน PPP มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพางบประมาณรัฐ และเร่งผลักดันไทยเข้าสู่ยุคโครงสร้างพื้นฐานมาตรฐานใหม่อย่างเต็มรูปแบบในทศวรรษหน้า