สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (Korea Customs Service: KCS) เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม–สิงหาคม) ปริมาณการนำเข้าเมล็ดกาแฟของเกาหลีใต้ทั้งชนิดดิบและคั่วรวมอยู่ที่ 136,318 ตัน เพิ่มขึ้นราว 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แม้ปริมาณจะขยายตัวเพียงเล็กน้อย แต่ในด้านมูลค่ากลับพุ่งสูงถึง 1.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นถึง 31% สะท้อนถึงการปรับตัวขึ้นของราคากาแฟในตลาดโลกและความต้องการบริโภคกาแฟระดับพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นในประเทศ

ข้อมูลของ KCS ระบุว่า มูลค่าการนำเข้าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 แทบจะเท่ากับตัวเลขนำเข้าตลอดทั้งปี 2567 แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 1.24 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 94% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งปีที่ผ่านมา หากแนวโน้มการเติบโตยังคงดำเนินต่อไปในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี คาดว่ามูลค่าการนำเข้ากาแฟของเกาหลีใต้ในปี 2568 จะทำ สถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) ทะลุระดับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2565

ในปี 2567 ที่ผ่านมา เกาหลีใต้นำเข้าเมล็ดกาแฟรวม 194,809 ตัน เพิ่มขึ้น 5.7% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 1.24 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2566 โดยมีแหล่งนำเข้าหลักคือ บราซิล ซึ่งครองสัดส่วนสูงสุดประมาณ 30% ของปริมาณทั้งหมด ตามมาด้วย โคลอมเบีย และ เวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย

นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมกาแฟเกาหลีใต้ให้ความเห็นว่า การนำเข้ากาแฟที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนถึงพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคเกาหลีใต้ โดยกาแฟได้กลายเป็นเครื่องดื่มหลักในชีวิตประจำวัน จากเดิมที่นิยมดื่มเฉพาะกาแฟสำเร็จรูป ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาบริโภคกาแฟสดและกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) มากขึ้น ทั้งในรูปแบบของร้านกาแฟอิสระ คาเฟ่พรีเมียม และเครื่องชงกาแฟภายในบ้าน

ข้อมูลจากสมาคมกาแฟเกาหลี (KCA) ระบุว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ความนิยมในการบริโภคกาแฟต่อหัวของคนเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉลี่ยชาวเกาหลีดื่มกาแฟมากกว่า 350 ถ้วยต่อปี ต่อคน ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นหนึ่งในตลาดบริโภคกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย รองจากญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

นอกจากนี้ การขยายตัวของร้านกาแฟแบรนด์ท้องถิ่นและต่างประเทศ เช่น Starbucks, A Twosome Place, Ediya Coffee และCompose Coffee รวมถึงการเติบโตของธุรกิจ กาแฟพรีเมียมและกาแฟเพื่อสุขภาพ ที่เน้นการใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพสูงจากแหล่งผลิตเฉพาะถิ่น (Single Origin) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันให้การนำเข้าเมล็ดกาแฟของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ในด้านราคาตลาดโลก ราคากาแฟอาราบิกาและโรบัสตาที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปี 2568 เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในบราซิลและเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ได้ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ปริมาณนำเข้าจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม

เกาหลีใต้เริ่มเห็นการขยายตัวของตลาดกาแฟตั้งแต่ปี 2561 โดยมูลค่าการนำเข้าขยายตัวต่อเนื่องจากราว 900 ล้านดอลลาร์ ในปี 2561 สู่ระดับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุด ก่อนจะชะลอตัวเล็กน้อยในปี 2566 เนื่องจากราคากาแฟในตลาดโลกผันผวนและการปรับฐานของการบริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในปี 2568 บ่งชี้ว่าอุปสงค์กำลังกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

นักเศรษฐศาสตร์ด้านการค้าของ KCS มองว่า ปัจจัยหนุนสำคัญคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ การท่องเที่ยวที่คึกคักขึ้นหลังโควิด-19 และการขยายตัวของวัฒนธรรมคาเฟ่ในเมืองใหญ่ เช่น โซล ปูซาน และแทกู ซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ที่ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจกาแฟโดยตรง

ด้วยแนวโน้มเช่นนี้ เกาหลีใต้มีแนวโน้มจะทำสถิติใหม่ในการนำเข้าเมล็ดกาแฟทั้งในด้านปริมาณและมูลค่าในปี 2568 และตอกย้ำบทบาทของประเทศในฐานะหนึ่งใน ตลาดกาแฟที่มีพลวัตและมีอิทธิพลมากที่สุดของเอเชีย โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดพรีเมียมที่มุ่งเน้นคุณภาพและแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟอย่างยั่งยืน