กกร. ห่วงเศรษฐกิจปี 2568 โตต่ำเพียง 1.8–2.2% แม้ส่งออกพุ่ง แต่หนุน GDP จำกัด จี้รัฐเร่งเบิกงบ–เดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานสภาหอการค้าไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมกับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ และนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยผลประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่ามีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.8–2.2% ใกล้เคียงกับประมาณการเดิม แม้การส่งออกจะมีโอกาสเติบโตสูงถึง 9.5–10.5% จากแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวกว่าคาด แต่สินค้ากลุ่มที่ขยายตัวเด่นส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ มีสัดส่วนวัตถุดิบไทยไม่มาก รวมถึงทองคำซึ่งไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างแท้จริง ขณะที่การนำเข้าขยายตัวถึง 10.2% ยิ่งจำกัดแรงหนุนต่อ GDP

ภาพรวมเงินเฟ้อปีหน้าอยู่ในช่วง -0.1% ถึง 0.1% ตามทิศทางราคาพลังงานที่ชะลอลง แม้ปัจจัยภายนอกจะเอื้อด้านการค้า แต่ภาคแรงงานไทยยังเผชิญความเปราะบาง ทั้งอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นและแรงกดดันต่อเด็กจบใหม่ซึ่งหางานยากขึ้นในหลายอุตสาหกรรม

กกร. เห็นว่าหากรัฐบาลสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2569 ควบคู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส มาตรการสนับสนุน SMEs และนโยบายส่งเสริมสินค้า Made In Thailand ตามแนวทาง Quick Big Win เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะมีโอกาสขยายตัวได้ใกล้ 2.5% เท่ากับปีก่อนหน้า และช่วยพยุงความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของหลายประเทศ

แม้เศรษฐกิจโลกปี 2568 จะถูก IMF ปรับคาดการณ์ให้โตเพิ่มเป็น 3.2% แต่สำหรับไทย การเติบโตจากภาคส่งออกยังส่งผลต่อ GDP ได้ไม่มาก เพราะโครงสร้างสินค้าไทยที่เติบโตแรงยังไม่สร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศเท่าที่ควร จึงทำให้เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวได้อย่างจำกัดในระยะสั้น