เมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจวของจีน ได้ต้อนรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำขนส่งสินค้าทางอากาศเที่ยวแรกจากกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ โดยเที่ยวบินนี้บรรทุก ทุเรียนหมอนทองจากประเทศไทยจำนวน 1,150 กล่อง น้ำหนักรวมกว่า 18 ตัน มาถึง ท่าอากาศยานนานาชาติหลงตุ้งเป่า ได้อย่างราบรื่น ถือเป็นครั้งแรกที่เมืองกุ้ยหยางสามารถนำเข้าผลไม้จากไทยโดยตรงผ่านทางอากาศ

เส้นทางบินใหม่นี้ นับเป็นเส้นทางบินขนส่งระหว่างประเทศสายที่ 7 ของเมืองกุ้ยหยาง โดยจะให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 แบบขนส่งเต็มลำ รองรับสินค้าน้ำหนักเที่ยวละ 18 ตัน โดยบริษัท Guizhou Shouyang International Trade Co., Ltd. เป็นผู้นำเข้าหลัก มูลค่าสินค้าเที่ยวแรกอยู่ที่กว่า 1 ล้านหยวน ใช้เวลาเพียง 30 ชั่วโมง นับจากเก็บเกี่ยวจนถึงปลายทางในจีน

คุณ Yang Bo ประธานบริษัทนำเข้า เผยว่า ทุเรียนไทยที่ส่งเข้าจีนครั้งนี้คัดจากสวนโดยตรง ผ่านกระบวนการคัดบรรจุอย่างพิถีพิถันในกล่องเฉพาะแบรนด์ ก่อนขึ้นเครื่องจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาบินเพียง 3 ชั่วโมง จากนั้นเข้าสู่กระบวนการศุลกากรและตรวจสอบสารตกค้าง (BY2) ใช้เวลาเพียง 1-2 วัน จากนั้นสามารถกระจายผลไม้สดถึงร้านค้าภายในเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง นับว่าเร็วและคงคุณภาพได้มากกว่าการขนส่งรูปแบบเดิม

ก่อนหน้านี้ การนำเข้าทุเรียนไทยมักใช้เส้นทางผ่านมณฑลยูนนาน กว่างซี และเมืองเซินเจิ้น แล้วจึงขนต่อทางบกเข้าสู่กุ้ยหยาง ใช้เวลานานถึง 3-10 วัน ขณะที่การขนส่งทางอากาศลดระยะเวลาลงได้ 3-5 วัน เทียบกับทางบก และมากถึง 6-8 วัน เทียบกับทางทะเล ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงด้านคุณภาพและเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายผลไม้พรีเมียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ท่าอากาศยานหลงตุ้งเป่า ยังได้รับการอนุญาตจากศุลกากรจีน (GACC) ให้เป็นจุดตรวจสอบและกักกันผลไม้นำเข้าอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2565 และปัจจุบันยังใช้ตรวจสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็งอีกด้วย โดยมีเส้นทางบินระหว่างประเทศไปยังธากา (บังกลาเทศ), ย่างกุ้ง (เมียนมา) และกรุงเทพฯ (ไทย)

ในปี 2567 ที่ผ่านมา มณฑลกุ้ยโจวมีการนำเข้าผลไม้เพิ่มขึ้นกว่า 45% จากปีก่อนหน้า และมีแนวโน้มว่าในปี 2568 จะนำเข้าเกิน 50,000 ตัน ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเมืองกุ้ยหยางที่มี GDP ต่อหัวเกือบ 59,000 หยวน ทำให้มีกำลังซื้อเพียงพอสำหรับผลไม้พรีเมียมจากไทย เช่น ทุเรียน มังคุด และสับปะรด

แม้ค่าขนส่งทางอากาศจะสูงกว่าทางบกหรือทางทะเล แต่ข้อได้เปรียบในด้าน "ความรวดเร็วและคุณภาพ" ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผลไม้ที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลทุเรียนที่กำลังมาถึง การเปิดเส้นทางบินตรงครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยในการเจาะตลาดจีนตอนใต้โดยตรง

ที่มา - ditp