นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าการผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 มูลค่ารวม 297,924 ล้านบาท โดยระบุว่าขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เสนอรายละเอียดโครงการให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาเรียบร้อยแล้ว และกระทรวงคมนาคมได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง สศช. และสำนักงบประมาณ เพื่อเคลียร์ข้อกังวลและจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้ชัดเจน
ผลจากการประชุมล่าสุดได้ข้อสรุปว่าโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จะถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ สศช. ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ และหลังจากนั้นกระทรวงคมนาคมจะรวบรวมความคิดเห็นจากทุกหน่วยงานก่อนเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันภายในเดือนกันยายน 2568
โครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 นี้ รฟท.ได้จัดลำดับความสำคัญของโครงการออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นโครงการที่มีความสำคัญสูงสุด ประกอบด้วย 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ เส้นทางสุราษฎร์ธานี–หาดใหญ่–สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 66,270 ล้านบาท เส้นทางปากน้ำโพ–เด่นชัย ระยะทาง 218 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 81,143 ล้านบาท และเส้นทางชุมพร–สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 30,422 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่ได้รับการเร่งผลักดันให้เริ่มดำเนินการก่อน
สำหรับกลุ่มที่สองเป็นโครงการที่มีความสำคัญระดับกลาง ประกอบด้วยเส้นทางชุมทางถนนจิระ–อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 44,095 ล้านบาท และเส้นทางเด่นชัย–เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 68,222 ล้านบาท
ส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นโครงการที่จะดำเนินการในลำดับถัดไป ได้แก่ เส้นทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 7,772 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ถือเป็นแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการยกระดับระบบรางของประเทศ เพิ่มขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์และการเดินทางของประชาชน ลดต้นทุนการขนส่ง และเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคอย่างยั่งยืน