ท่าเรือชินโจว ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน กำลังยกระดับบทบาทเป็นศูนย์กลางการนำเข้าผลไม้จากอาเซียนอย่างชัดเจน โดยในปีนี้มูลค่าการนำเข้าทุเรียนผ่านท่าเรือแห่งนี้พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 50 แสดงให้เห็นถึงความนิยมผลไม้จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มสูงขึ้นในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน

หนิง เหยียน ผู้บริหารบริษัทกว่างซี หวงยี่ว์ อินเทอร์เนชั่นแนล ลอจิสติกส์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการนำเข้าผลไม้จากอาเซียน เปิดเผยว่า ความต้องการทุเรียนจากไทยและผู้ผลิตในภูมิภาคอื่น ๆ พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ส่งออกทุเรียนไทยสามารถจัดส่งทุเรียนหมอนทองคุณภาพพรีเมียม มูลค่ากว่า 20 ล้านหยวน หรือราว 90 ล้านบาท ไปยังจีนผ่านท่าเรือชินโจวในปีนี้ โดยทุเรียนส่วนใหญ่ถูกกระจายไปยังภูมิภาคเศรษฐกิจสำคัญอย่างสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีและสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง

ท่าเรือชินโจวถือเป็นประตูสำคัญในการเชื่อมโยงจีนกับอาเซียน และยังเป็นศูนย์กลางของระเบียงการค้าเชื่อมทางบกและทางทะเลสายใหม่ เดิมเมื่อสิบปีก่อน ท่าเรือแห่งนี้มีปริมาณการขนส่งไม่ถึง 100 ล้านตันต่อปี แต่ด้วยศักยภาพการเติบโตที่สูง ทำให้ในปี 2560 ท่าเรือได้รับการกำหนดให้เป็นจุดนำเข้าผลไม้อย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ตัวเลขการนำเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

สถิติในปี 2567 ระบุว่า กว่างซีนำเข้าผลไม้จากอาเซียนกว่า 2.488 ล้านตัน มูลค่ากว่า 34,890 ล้านหยวน หรือประมาณ 157,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของการนำเข้าผลไม้ทั้งหมดจากภูมิภาคนี้ของจีน ปัจจุบันท่าเรือชินโจวได้กลายเป็นท่าเรือหลักสำหรับผลไม้อาเซียน โดยเพิ่มหมวดหมู่สินค้านำเข้าและส่งออกใหม่มากถึง 239 รายการ ปริมาณการขนส่งผ่านท่าเรือทะลุ 200 ล้านตัน ขณะที่การเชื่อมต่อระบบรถไฟและทางทะเลในรูปแบบ intermodal ขยายตัวมากกว่า 10,000 เที่ยว ครอบคลุมพื้นที่ทางการค้าใหม่อย่างกว้างขวาง มูลค่าการนำเข้าและส่งออกของเมืองและมณฑลตามแนวระเบียงการค้าผ่านท่าเรือแห่งนี้ยังเติบโตสูงถึงร้อยละ 31.3 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

จากพัฒนาการดังกล่าว ท่าเรือชินโจวจึงไม่เพียงเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่สำคัญของกว่างซี หากยังกลายเป็น “ศูนย์กลางผลไม้อาเซียน” ที่สะท้อนถึงโอกาสทางการค้าอันมหาศาล โดยเฉพาะทุเรียนไทยที่ยังคงครองความนิยมสูงสุดในตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง