ท่าเรือชินโจว กำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าแห่งใหม่ที่สำคัญสำหรับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของ ระเบียงการค้าระหว่างประเทศเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor – ILSTC) ที่จะเปิดประตูสู่ตลาดจีนตะวันตกและจีนกลางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ย้อนกลับไปในอดีต ดร.ซุน ยัตเซ็น เคยเล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่ชายฝั่งเมืองซินโจวและใฝ่ฝันที่จะสร้างท่าเรือการค้าขนาดใหญ่ และวันนี้ความฝันนั้นได้กลายเป็นจริงแล้ว ด้วยการพัฒนา "ท่าเรือชินโจว" ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ให้เป็นท่าเรือหลักในอ่าวเป่ยปู้ ซึ่งเป็นอ่าวที่ใกล้กับประเทศไทยมากที่สุด ทำให้เป็นเส้นทางขนส่งทางเรือที่รวดเร็วที่สุดไปยังจีน
นายชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิสโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของท่าเรือชินโจวว่า เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการเจาะตลาดในมณฑลทางภาคตะวันตกและภาคกลางของจีน ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน ระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัย และนโยบายส่งเสริมการลงทุนพิเศษ ทั้งในเขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี) พื้นที่ย่อยท่าเรือชินโจว และเขตท่าเรือสินค้าทัณฑ์บนชินโจว ทำให้พื้นที่นี้เป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุน โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจการผลิตและการแปรรูปสินค้าที่ต้องการเจาะตลาดภายในประเทศจีน หรือส่งออกไปยังประเทศที่สามผ่านเครือข่ายการขนส่งของระเบียงการค้า ILSTC ซึ่งรวมถึงการขนส่งทางเรือและทางรถไฟ (China-Europe Railway Express)
จากอดีตเมืองท่าประมง วันนี้เมืองซินโจวกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นเป้าหมายที่น่าจับตาของนักลงทุน โดยเฉพาะจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และยิ่งไปกว่านั้น ตลาดผลไม้ของอาเซียนอย่างทุเรียนก็กำลังได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากท่าเรือแห่งนี้
ท่าเรือชินโจวไม่เพียงแต่เป็นเส้นทางขนส่งใหม่ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวระหว่างจีนกับประเทศสมาชิกอาเซียน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลในการขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนในภูมิภาคนี้