กระทรวงพาณิชย์ กำลังเดินหน้ายุทธศาสตร์การค้าเสรี (FTA) ครั้งสำคัญ โดยเล็งเป้าหมายไปยังตลาดกลุ่มประเทศยุโรป หวังกระตุ้นยอดส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังความตกลง EFTA (European Free Trade Association) ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่ยุโรปฉบับแรกของไทย กำลังอยู่ในขั้นตอนการให้สัตยาบัน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยมี FTA ที่มีผลบังคับใช้แล้ว 14 ฉบับ ครอบคลุม 18 ประเทศทั่วโลก และยังเจรจาเสร็จสิ้นอีก 3 ฉบับกับศรีลังกา ภูฏาน และ EFTA โดยเฉพาะ EFTA ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะยกระดับความร่วมมือทางการค้าและขยายตลาดส่งออกของไทยไปสู่ทวีปยุโรป
EFTA ก้าวสำคัญสู่การค้าที่ยั่งยืนกับยุโรป
สำหรับการเจรจา FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (EU) นั้น นายพิชัยเน้นย้ำว่าเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญสูงสุดของรัฐบาลและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาคเอกชน ความตกลง FTA ฉบับนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับยุโรป ทั้งในด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งจะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจ
ส่งออก EU สัญญาณดี แม้เศรษฐกิจโลกผันผวน
แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะมีความไม่แน่นอน แต่ตัวเลขการค้ากับ EU ยังคงแสดงสัญญาณที่ดี โดยในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2568 EU เป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น มีมูลค่าการค้ารวม 18,092.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.57%
ที่น่าสนใจคือ ประเทศไทยส่งออกไปยัง EU มีมูลค่าสูงถึง 10,696.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.86% ขณะที่นำเข้าจาก EU มีมูลค่า 7,395.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 9.40% ส่งผลให้ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับ EU สูงถึง 3,301.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การผลักดัน FTA กับ EFTA และ EU ถือเป็นความพยายามของกระทรวงพาณิชย์ในการกระจายความเสี่ยงและหาตลาดใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนการส่งออกของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ที่มา - mitihoon