น้ำมันดิบอ่อนตัวต่อเนื่อง ตลาดกังวลอุปทานล้น–เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณชะลอ
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลดลง ท่ามกลางความกังวลเรื่องภาวะอุปทานน้ำมันที่มีแนวโน้มล้นตลาดในระยะยาว ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดพลังงานยังคงระมัดระวัง
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนักกับมุมมองด้านอุปทานเป็นหลัก โดยฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของ J.P. Morgan ประเมินว่าภาวะน้ำมันล้นตลาดในปี 2568 มีแนวโน้มจะยืดเยื้อต่อเนื่องไปถึงปี 2569–2570 เนื่องจากอุปทานน้ำมันทั่วโลกขยายตัวเร็วกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของความต้องการใช้ ส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้า
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2568 ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 56.82 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.62 ดอลลาร์ ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ปิดที่ระดับ 60.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.56 ดอลลาร์
แรงกดดันเพิ่มเติมมาจากข้อมูลเศรษฐกิจจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน 2568 ขยายตัวเพียง 4.8% ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ยอดค้าปลีก ซึ่งสะท้อนการบริโภคภายในประเทศ เพิ่มขึ้นเพียง 1.3% ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่จีนยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 ในช่วงปลายปี 2565 สะท้อนถึงความเปราะบางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก
นอกจากนี้ ความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามรัสเซีย–ยูเครน ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน โดยประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ส่งสัญญาณว่ายูเครนพร้อมพิจารณาละทิ้งความพยายามในการเข้าร่วมองค์การนาโต หากสามารถแลกกับหลักมอบหลักประกันด้านความมั่นคงภายใต้ข้อตกลงสันติภาพได้ ซึ่งหากการเจรจาประสบความสำเร็จ อาจนำไปสู่การผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย และเปิดทางให้การส่งออกน้ำมันของรัสเซียกลับเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงจับตาความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในลาตินอเมริกา หลังความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลามีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น โดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา PDVSA รายงานว่าถูกโจมตีทางไซเบอร์ ขณะที่การส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังสหรัฐฯ ดำเนินการยึดเรือบรรทุกน้ำมันนอกชายฝั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีรายงานว่าสหรัฐฯ เตรียมเพิ่มมาตรการสกัดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันเพิ่มเติม ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่ออุปทานจากเวเนซุเอลาในตลาดโลก
โดยรวมแล้ว ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวภายใต้แรงกดดันจากอุปทานส่วนเกินและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดในระยะถัดไป

