เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ 18 ท่า ในท่าเรือแหลมฉบัง ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดที่ท่าเรือแหลมฉบัง

เรือโทยุทธนา  กล่าวว่า ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังมีความหนาแน่น โดยผ่านมาท่าเรือแหลมฉบังปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก  เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรภายในท่าเรือ รวมทั้งยกระดับการให้บริการให้ สอดรับต่อแผนการพัฒนาท่าเรือระยะยาว โดยใช้งบประมาณไปนับพันล้านบาท

ทั้งนี้ เพื่อลดความแออัดของรถบรรทุกที่เข้ามาขนส่งสินค้า และแก้ไขปัญหาจราจรภายในท่าเรือแหลมฉบัง โดยการเพิ่มประตูตรวจสอบตู้สินค้าจากเดิมมีเพียง  6 ช่องทาง จนปัจจุบันมีทั้งหมด 30 ช่องทางแล้ว  ทำการขยายถนน ปรับปรุงผิวจราจร ขยายช่องจราจร  ติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่าง และป้ายสัญญาณจราจร ก่อสร้างสะพานข้ามแยกบริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด  ทางยกระดับจุดกลับรถทางเข้าชุมชนบ้านแหลมฉบัง รวมทั้งยังมีจองเวลาการส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์เพื่อการส่งออก โดยจะให้ผู้ประกอบการสามารถระบุระยะเวลาในการส่งตู้สินค้าซึ่งคนขับรถไม่ต้องมาเสียเวลารอ โดยมีลานจอดพักรถในพื้นที่ 70 ไร่ ซึ่งมีบริการห้องสุขา จุดทิ้งขยะ ให้บริการ และร้านอาหารใกล้บริเวณดังกล่าว ในเรื่องห้องสุขา เราจะพิจารณาจัดให้บริการในพื้นที่ตามเส้นทางเพิ่มเติม เนื่องจากความไม่สะดวกในช่วงเวลาที่เข้ามาใช้บริการและรอเพื่อเข้าส่งตู้สินค้าเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ยังมีแผนจัดการพื้นที่ ที่ท่าเรือแหลมฉบังได้วางไว้ คือ โครงการ "Truck parking“ จะพัฒนาพื้นที่  83 ไร่ บริเวณพื้นที่โซน 3 นอกเขตรั้วศุลกากร ทำจุดจอดรถและคอมมูนิตี้มอลล์ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในการจอดรถ พักรถ และพักผ่อน เพื่อรองรับรถบรรทุกสินค้าที่เข้ามารอรับส่งสินค้าในท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษารูปแบบการดำเนินงาน

รวมทั้งเบื้องต้นจะเป็นการให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่ และเสนอรูปแบบการบริหารจัดการทั้งหมด ทั้งการก่อสร้างและบริหาร  มั่นใจว่าจะรองรับรถบรรทุกหัวลากรถบรรทุกสิบล้อที่มีกว่า 350,000-370,000 คัน ที่วิ่งเข้าออกขนส่งสินค้าในท่าเรือได้สะดวกสบายมากขึ้น  พร้อมเป็นการสนับสนุนโครงการ Truck Queue  ของท่าเรือแหลมฉบัง โดยเฉพาะรถหัวลากที่ยังไม่มีคิวจะเข้ามาพักคอยในสถานที่แห่งนี้ได้  

นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดประตู 5 เพื่อช่วยระบายการจราจรให้คล่องตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งหากทุกอย่างแล้วเสร็จจะสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรภายในได้ อย่างแน่นอน

ที่มา - bangkokbiznews