กระทรวงคมนาคม หนึ่งในหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมทั้งถนน น้ำ ราง และอากาศ มักได้รับงบประมาณปีละหลายแสนล้านบาทเพื่อขับเคลื่อนโครงการสำคัญ แต่ล่าสุดหลายเมกะโปรเจ็กต์มูลค่ามหาศาลยังค้างท่อ ไม่สามารถเดินหน้าได้ เนื่องจากต้องรอการพิจารณาอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่

สถานการณ์นี้เกิดขึ้นภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 โดยให้เหตุผลว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ส่งผลให้ครม.ทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย และเหลือสถานะเพียงครม.รักษาการที่ไม่มีอำนาจอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่

การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองครั้งนี้ทำให้ 3 โครงการใหญ่ของกระทรวงคมนาคม มูลค่ารวมกว่า 306,000 ล้านบาท ต้องชะงักไปโดยปริยาย โครงการแรกคือนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ที่มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 2.5 แสนราย เดิมกำหนดประกาศใช้ภายในกลางเดือนพฤศจิกายน โดยใช้รายได้จาก รฟม. มาชดเชยราว 8,000 ล้านบาทต่อปีในช่วง 2 ปีแรก แม้ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งระบบตั๋วร่วมและกฎหมายการขนส่งทางรางผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่การเดินหน้าต่อจะขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาลใหม่

อีกโครงการสำคัญคือรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กิโลเมตร มูลค่า 224,544 ล้านบาท ที่บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด (กลุ่มซีพี) ได้รับสัมปทาน 50 ปี ล่าสุดอัยการสูงสุดตรวจสอบร่างแก้ไขสัญญาแล้ว โดยเห็นชอบกว่า 95% แต่ยังมีข้อสังเกตบางประการที่ต้องหารือร่วมกับเอกชน ก่อนนำเสนอเข้าสู่บอร์ดอีอีซีและครม.เพื่ออนุมัติ คาดว่าจะสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้หากรัฐบาลใหม่ไฟเขียว

ส่วนโครงการที่สามคือ “บ้านเพื่อคนไทย” มูลค่า 4,685 ล้านบาท ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดสรรพื้นที่บางซื่อ ธนบุรี เชียงใหม่ และเชียงราก รวมกว่า 4,000 หน่วยเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาประหยัด ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 126,000 ราย และมีกำหนดจับสลากผู้มีสิทธิ์ในวันที่ 18 กันยายน 2568 ทว่าอนาคตของโครงการยังไม่แน่ว่าจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่หากรัฐบาลใหม่ไม่สานต่อ

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอาจชี้ชะตาโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ หากพรรคเพื่อไทยยังคงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โครงการเหล่านี้มีโอกาสได้รับการผลักดันต่อ แต่หากเป็นพรรคอื่นเข้ามาบริหาร ความต่อเนื่องของเมกะโปรเจ็กต์เหล่านี้ก็อาจสะดุดและไม่ถึงฝันตามที่วางแผนไ