บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดย นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นายมานพ ปัจวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ได้ร่วมให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในงาน “Opportunity Day” ผ่านระบบออนไลน์ ย้ำความเชื่อมั่นว่า LEO จะสามารถสร้างการเติบโตต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้ของโครงการใหม่ รวมถึงการขยายธุรกิจไปสู่บริการที่สอดรับกับกระแสความยั่งยืนในระดับโลก
หนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ LEO ให้ความสำคัญ คือการผลักดัน Green Logistics ซึ่งเน้นการให้บริการขนส่งด้วย รถบรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มุ่งเน้นการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ บริษัทเตรียมจัดทำ Carbon Emission Statement ตามมาตรฐาน ISO 14067 เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้ลูกค้าสามารถวัดและรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างโปร่งใส ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในไตรมาส 4 ของปีนี้
LEO ยังวางเป้าหมายสำคัญในการปรับพอร์ตโฟลิโอรายได้ โดยตั้งใจเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics เช่น บริการที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนดิจิทัลและธุรกิจใหม่ที่สร้างคุณค่าเพิ่ม ให้มีสัดส่วนราว 30-35% ของรายได้รวมภายในปี 2568 เพื่อสร้างความมั่นคงระยะยาว ลดการพึ่งพารายได้จากงานขนส่งระหว่างประเทศเพียงอย่างเดียว
ผู้บริหารย้ำว่า การขยายสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนจะไม่เพียงช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แต่ยังช่วยสร้างแบรนด์ LEO ให้โดดเด่นในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ ที่ภาคธุรกิจและนักลงทุนให้ความสำคัญกับ ESG (Environment, Social, Governance) มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้จึงสะท้อนว่า LEO ไม่ได้มองเพียงการเติบโตระยะสั้น แต่กำลังวางรากฐานธุรกิจระยะยาว ด้วยการผสานกลยุทธ์การขยายงาน การปรับตัวสู่ Green Logistics และการกระจายแหล่งรายได้ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์สมัยใหม่ที่ยั่งยืนทั้งต่อองค์กร ลูกค้า และสิ่งแวดล้อม