บรรยากาศที่ฮอลล์ 98 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เต็มไปด้วยความคึกคักจากการเปิดฉากงานมหกรรมด้านโลจิสติกส์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “ไทล็อก – โลจิสติกซ์ 2025” (TILOG – LOGISTIX 2025) ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ร่วมกับบริษัท อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ จำกัด งานนี้รวบรวมสุดยอดนวัตกรรมและบริการด้านโลจิสติกส์จาก 415 แบรนด์ชั้นนำ ครอบคลุม 25 ประเทศทั่วโลก โดยตั้งเป้าดึงดูดผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมทั้งผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ผู้ให้บริการขนส่งและซัพพลายเชนกว่า 9,000 ราย พร้อมคาดการณ์เม็ดเงินหมุนเวียนภายในงานมากกว่า 600 ล้านบาท
พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน โดยเขาได้กล่าวปาฐกถาชูประเด็นสำคัญว่า ระบบโลจิสติกส์คือ “หัวใจของการค้า” และเป็นปัจจัยหลักที่ชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในยุคที่โลกเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ ตลอดจนมาตรการการค้าที่เข้มงวดขึ้น เช่น กฎเกณฑ์ CBAM ของสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ
เขาย้ำว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งที่ไม่อาจมองข้าม ทั้งระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพสูงติดอันดับที่ 34 ของโลก และอยู่ในอันดับ 3 ของอาเซียน รวมถึงทำเลทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาค ถือเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาไทยสู่ศูนย์กลางการค้าและการขนส่งของอาเซียน รัฐบาลจึงเดินหน้าสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชน และสร้างเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้สามารถยืนหยัดและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนบนเวทีโลก
สำหรับงานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Resilient Supply Chain: Overcoming Global Challenges พิชิตทุกสิ่งท้าทายด้วยความแกร่งแห่งซัพพลายเชน” โดยนางสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงแก่นของการจัดงานว่า มุ่งเน้นการรับมือความผันผวนของเศรษฐกิจและการค้าโลกด้วย 3 พลังสำคัญ ได้แก่ เทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ AI และ IoT ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความรวดเร็วในการบริหารจัดการซัพพลายเชน โซลูชันเพื่อความยั่งยืนที่ตอบโจทย์มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งเข้มงวดขึ้นทั่วโลก และการรวมตัวของเครือข่ายผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม ที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งและลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอน
ภายในพื้นที่จัดแสดง ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำสมัยครบวงจร ตั้งแต่ระบบบริหารจัดการคลังสินค้าอัจฉริยะ อุปกรณ์เคลื่อนย้ายแบบไร้คนขับ รถโฟล์กลิฟต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ไปจนถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับบริหารการขนส่ง โดยมีโซนไฮไลต์อย่าง Innovation Showcase ที่นำเสนอรถบรรทุกไฟฟ้าขนาด 13.5 ตันจาก CP FOTON ซึ่งได้รับการออกแบบให้เหมาะกับการขนส่งระยะกลางและยาว ตอบโจทย์ทั้งด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีการสาธิตสายการบรรจุสินค้าอัตโนมัติครบวงจรจาก TKK ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน
นอกจากโซนจัดแสดงแล้ว งานยังมีเวทีสัมมนาวิชาการนานาชาติที่จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทรนด์ใหม่ ๆ ในวงการโลจิสติกส์ หนึ่งในนั้นคือ Trade Logistics Symposium ภายใต้หัวข้อ “LogiResilience 2025: The Trade & Transport Reset” ที่วิเคราะห์การปรับตัวของซัพพลายเชนและการค้าระหว่างประเทศท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง ขณะที่อีกเวทีสำคัญคือ World Transport & Logistics Forum ซึ่งจัดร่วมกับ World Bank Group เปิดมุมมองเชิงกลยุทธ์ระดับโลกที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปต่อยอดเพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน
การจัดงานครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นเวทีแสดงนวัตกรรมและโซลูชันด้านโลจิสติกส์ แต่ยังเป็นจุดนัดพบสำคัญของผู้เล่นในห่วงโซ่การค้าและการขนส่ง ที่จะช่วยสร้างความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งยืนยันบทบาทของประเทศไทยในการก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต