คมนาคมเปิดศูนย์ “คมนาคมร่วมใจ ช่วยรถน้ำท่วม” ที่สงขลา ผนึก 20 แบรนด์รถยนต์–มอเตอร์ไซค์ อัดโปรซ่อมฟรี–ลดสูงสุด 40% บรรเทาภาระชาวใต้หลังน้ำลด

กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก เดินหน้าฟื้นฟูยานพาหนะของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ หลังได้รับผลกระทบหนักจากอุทกภัย โดยเปิดศูนย์ประสานงาน “คมนาคมร่วมใจ ช่วยรถน้ำท่วม” ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา แห่งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อเป็นจุดกลางในการตรวจเช็ก ซ่อมแซมเบื้องต้น และประสานงานเข้าสู่ศูนย์บริการมาตรฐาน พร้อมได้รับแรงสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และภาคอาชีวศึกษามากกว่า 20 องค์กร

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ศูนย์ดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ยานพาหนะได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม โดยมีภารกิจหลักคือให้บริการตรวจประเมินฟรี ซ่อมแซมเบื้องต้น และจัดระบบส่งต่อเข้าศูนย์บริการของแต่ละยี่ห้อ ระหว่างนี้สถาบันอาชีวศึกษาจะสนับสนุนแรงงานช่างเทคนิคเพื่อช่วยซ่อมแซมรถพื้นฐานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งมีการสนับสนุนด้านน้ำมันเครื่องและอุปกรณ์จากภาคเอกชน

ค่ายรถยนต์กว่า 15 แบรนด์ตอบรับเข้าร่วมมอบสิทธิพิเศษอย่างครอบคลุม ทั้งการลดราคาอะไหล่และค่าแรง 30–40% ฟรีค่าตรวจเช็ก ฟรีรถยก รวมถึงสิทธิซ่อมแซมเบื้องต้น โดย Toyota, Isuzu, MG, GWM, Suzuki, Mitsubishi, Honda, Mercedes-Benz, Nissan, Ford, Mazda, GAC AION, BMW/MINI, Deepal, BYD ต่างทยอยประกาศแพ็กเกจช่วยเหลือตามเงื่อนไขของแต่ละค่าย นอกจากนี้ PTG Energy และ Autobacs ยังสนับสนุนน้ำมันเครื่อง PT Maxnitron สำหรับบริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ด้านรถจักรยานยนต์ แต่ละแบรนด์เข้าช่วยเต็มที่เช่นกัน โดย Honda เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง–น้ำมันเฟืองท้ายฟรี และตรวจเช็กหลายรายการ ขณะที่ Yamaha ให้บริการซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่ฟรีสำหรับรถที่น้ำท่วม รวมถึงตรวจเช็ก 10 รายการ ส่วน Suzuki และ DECO ต่างจัดส่วนลดค่าอะไหล่และตรวจเช็กฟรีเช่นเดียวกัน

เพื่ออำนวยความสะดวกเพิ่มเติม กรมการขนส่งทางบกยังเปิดพื้นที่ให้ผู้ประสบภัยนำรถมาจอดพักฟรีระหว่างรอดำเนินการ โดยที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา แห่งที่ 1 รองรับได้ 50 คัน และแห่งที่ 2 อำเภอหาดใหญ่ รองรับได้ 20 คัน ทั้งยังเปิดให้สอบถามข้อมูลได้ผ่านสายด่วน 1584 และ Facebook สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา

อธิบดีกรมการขนส่งทางบกย้ำว่า การร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนพลังของภาครัฐและเอกชนที่พร้อมยืนเคียงข้างประชาชน เพื่อช่วยให้ทุกครอบครัวกลับมามีรถใช้งานและฟื้นฟูการดำเนินชีวิตได้เร็วที่สุด ภารกิจครั้งนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการเยียวยาหลังภัยพิบัติ และสร้างความเชื่อมั่นว่าภาครัฐพร้อมเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและทั่วถึง.