คมนาคมเดินหน้าฟื้นฟูถนนในจังหวัดภาคใต้หลังสถานการณ์น้ำลด เร่งคืนเส้นทางสัญจรให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสงขลาและหลายพื้นที่ของภาคใต้ยังคงต้องติดตามใกล้ชิด กระทรวงคมนาคมจึงมอบหมายให้กรมทางหลวงชนบทเร่งลงพื้นที่สำรวจ ฟื้นฟู และซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง พร้อมกำชับให้ติดตั้งป้ายเตือนทุกจุดเสี่ยง และประสานงานกับจังหวัด ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทั้งยังเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานติดตามระดับน้ำและสภาพเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง

นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรจากสำนักงานทางหลวงชนบทในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงการสนับสนุนจากส่วนกลาง ทั้งจากสำนักบำรุงทางและสำนักเครื่องกลและสื่อสาร เพื่อเร่งฟื้นฟูถนนในจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดทีมตรวจสอบโครงสร้างถนนและสะพานทุกสายที่ได้รับผลกระทบ โดยดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นทันทีเพื่อให้เปิดการสัญจรได้เร็วที่สุด

ในขณะเดียวกัน สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 6 (ขอนแก่น) ได้ร่วมกับสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 14 (กระบี่) จัดเตรียมถุงยังชีพ อาหารแห้ง และน้ำดื่ม เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจะส่งมอบอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแสดงระดับน้ำ และปักเสาขาว–แดงในทุกจุดเสี่ยง เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรับทราบสถานการณ์อย่างชัดเจนและปลอดภัยที่สุด

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดเวลา 14.00 น. พบว่าโครงข่ายทางหลวงชนบทใน 8 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส ยะลา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ได้รับผลกระทบรวม 38 สายทาง จากจำนวนดังกล่าวสามารถสัญจรผ่านได้แล้ว 30 สายทาง และยังไม่สามารถสัญจรได้อีก 8 สายทาง โดยกรมทางหลวงชนบทจะเร่งเปิดเส้นทางที่ยังปิดให้กลับมาใช้งานได้เร็วที่สุด พร้อมเปิดสายด่วน 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือได้ทันที