ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการนำเข้าหมูจากสหรัฐอเมริกาที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดง พร้อมยืนยันว่า “ผมสนใจเกษตรกรไทย” ซึ่งถือเป็นคำประกาศที่สร้างความมั่นใจและกำลังใจแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูในประเทศ
ประเทศไทยมีกฎหมายห้ามใช้และห้ามนำเข้าสารเร่งเนื้อแดงมานานกว่า 20 ปี ถือเป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ชัดเจน แต่ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลชุดก่อนมีข้อตกลงกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับการนำเข้าหมู โดยแม้จะระบุว่าเป็นเพียงสัดส่วนไม่ถึงร้อยละหนึ่ง แต่ก็กลายเป็นประเด็นที่สังคมและเกษตรกรให้ความกังวลอย่างมาก
ประเด็นนี้จึงนับเป็นบททดสอบสำคัญว่ารัฐบาลภายใต้การนำของร้อยเอก ธรรมนัส จะเจรจากับสหรัฐฯ อย่างไร เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรไทยโดยไม่ให้กระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากการปฏิเสธการนำเข้าอาจทำให้สินค้าเกษตรประเภทอื่นของไทย เช่น ข้าว ผลไม้ และสินค้าประมง เผชิญมาตรการตอบโต้หรือกำแพงภาษีในตลาดโลกได้
อีกประเด็นที่ถูกจับตามองคือปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูผิดกฎหมายในประเทศ แม้ที่ผ่านมาจะมีการจับกุมผู้กระทำผิด แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย ขณะที่ผู้มีอิทธิพลหรือกลุ่มทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังยังไม่ถูกดำเนินการอย่างจริงจัง การจัดการปัญหานี้อย่างเด็ดขาดจึงเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าการประกาศไม่ยอมรับหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงจากต่างประเทศจะไม่กลายเป็นเพียงถ้อยคำทางการเมือง
นอกจากนี้ ภายในกระทรวงเกษตรฯ กำลังมีการจับตาความเคลื่อนไหวเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงหลังการเกษียณ โดยคาดว่าจะมีผู้ใหญ่ในวงการเกษตร 2 ราย กลับมารับตำแหน่งสำคัญอีกครั้ง ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างการทำงานภายในกระทรวง
การประกาศจุดยืนของร้อยเอก ธรรมนัส ครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการปกป้องผู้เลี้ยงหมูไทยเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงสมดุลที่รัฐบาลต้องรักษาระหว่างการดูแลเกษตรกรภายในประเทศและการเจรจาความสัมพันธ์ทางการค้าบนเวทีระหว่างประเทศด้วย