“มนพร” เดินหน้าเข็น 6 บิ๊กโปรเจ็กต์คมนาคม ดันพัฒนาท่าเรือสำราญ-แลนด์บริดจ์ หนุนมูลค่าเศรษฐกิจพุ่ง 8 เท่า เข็นแผนสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง เฟส 3 คาดนักท่องเที่ยวเข้าไทย 240 ล้านคน ในปี 75
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนา Dinner Talk : Go Thailand 2025 Women Run the World พลังหญิงเปลี่ยนโลก จัดโดยฐานเศรษฐกิจว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีรัฐมนตรีหญิงถึง 8 คน โดยนายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสและมอบหมายให้สตรีเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบาย และขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีหญิงทุกคนสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี และเป็นที่ยอมรับในสายตาของประชาชน
“จากการมอบหมายหน้าที่นี้แสดงให้เห็นว่า บทบาทของสตรีไทยในอนาคตจะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใดก็ตาม สตรีไทยก็สามารถขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าในทุกมิติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างประโยชน์โดยรวมต่อประเทศชาติและประชาชน” นางมนพร กล่าว
สำหรับความก้าวหน้าการดำเนินการโครงการที่สำคัญของกระทรวงคมนาคม ภายใต้รัฐบาลของท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในวิสัยทัศน์ที่ว่า Mega Project Mega Power พลิกโฉมโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมเพื่อการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธารชินวัตร ได้แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยรัฐบาลมีนโยบายในการเดินหน้าการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ (Mega Project) เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดการดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสและพลิกโฉมให้กับประเทศไทยผ่านการลงทุนทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ อย่างเป็นระบบ
นางมนพร กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่ได้ใช้ข้อได้เปรียบของตำแหน่งที่ตั้งที่ประเทศไทยอยู่ตรงกลางของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งการที่ประเทศไทยตั้งอยู่ตรงกลางของภูมิภาคอาเซียน ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการเดินทางของคน และเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้า
“หากเราทำการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมได้ จะทำให้ประชาชนทั่วโลกที่เดินทางมาในภูมิภาคอาเซียนจะเดินทางมาประเทศไทยก่อน แล้วต่อเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังประเทศจุดหมายปลายทาง หรือสินค้าต่าง ๆ ที่จะขนส่งมายังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคก็ต้องขนส่งมาที่ประเทศไทยก่อนที่จะกระจายต่อไปยังประเทศต่าง ๆ โดยรอบ ผ่านระบบโครงข่ายคมนาคมที่ดีของไทยเรา” นางมนพร กล่าว
ขณะที่รายได้ส่วนใหญ่ของประเทศไทยในปัจจุบันมาจากภาคการท่องเที่ยว จากสถิติที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยถึง 35.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% เทียบกับปีที่แล้ว และนำรายได้เข้าประเทศกว่า 1.67 ล้านล้านบาท สร้างการจ้างงานกว่า 7 ล้านคน หรือ 20% ของการจ้างงานทั้งหมด
สำหรับในปีนี้ ปี 2568 ประเทศไทยครองตำแหน่ง Destination of the Year 2025 โดยได้รับตำแหน่งติดต่อกันมาแล้ว 10 ปี ประเทศไทยจึงถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเยือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและอนาคต
ที่มา - bangkokbiznews