สถานการณ์การค้าโลกในปี 2568 แม้จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา แต่ในอีกมุมกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้กระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) หลั่งไหลเข้าสู่ไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างมีนัยสำคัญ
นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวในเวทีเศรษฐกิจโลกขณะนี้ แม้จะดูเป็นความท้าทาย แต่หากมองในแง่บวก กลับกลายเป็นโอกาสสำคัญของไทยในฐานะหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมต่อระหว่างประเทศ และระบบโลจิสติกส์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ต่างชาติเริ่มหันมามองไทยเป็น “จุดยุทธศาสตร์ใหม่” สำหรับการลงทุนด้านการผลิตและขนส่งสินค้า
ในยุคที่โลกเดินหน้าเข้าสู่การแข่งขันด้วยเทคโนโลยี ประเทศที่พร้อมด้วย Digital Infrastructure และระบบ Smart Logistics จะได้เปรียบในการดึงดูดนักลงทุน และตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ การใช้ AI และหุ่นยนต์ในงานโลจิสติกส์ ไปจนถึงโซลูชัน IoT ที่ช่วยให้การจัดการซัพพลายเชนแม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เพื่อแสดงศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค หอการค้าไทยร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก เตรียมจัดงาน “LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025” ระหว่างวันที่ 15–17 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค งานนี้นับเป็นเวทีสำคัญที่ผู้ประกอบการโลจิสติกส์จะได้อัปเดตเทคโนโลยีล่าสุดจากทั่วโลก พบปะพันธมิตรทางธุรกิจ และเปิดโอกาสในการจับคู่เจรจา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยให้แข่งขันได้ในเวทีระดับสากล
คาดว่างานนี้จะดึงดูดผู้แสดงสินค้าจากเอเชียและยุโรปมากถึง 350 บูธ และมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 7,000 ราย ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของไทยในฐานะ “ฮับโลจิสติกส์แห่งอนาคตของอาเซียน”
สอดคล้องกับรายงานล่าสุดของ Custom Market Insights ซึ่งระบุว่า ในปี 2024 ตลาดโลจิสติกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่ารวมถึง 243.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้แรงส่งจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง IoT และ AI อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการย้ายฐานการผลิตของธุรกิจต่างชาติ
แนวโน้มในปี 2025 คาดว่ามูลค่าตลาดโลจิสติกส์จะเพิ่มขึ้นเป็น 258.9 พันล้านดอลลาร์ และพุ่งทะลุ 476.6 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2034 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงศักยภาพอันมหาศาลของภูมิภาคนี้ และยืนยันว่าอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับโลกอย่างแท้จริง
ที่มา - mgronline