สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงร่วมกันเพื่อยุติการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียภายในช่วงปลายปี 2570 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียที่ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ ข้อตกลงดังกล่าวได้ข้อสรุปเมื่อวันพุธที่ 3 ธันวาคม 2568 หลังตัวแทนรัฐบาลสหภาพยุโรปและรัฐสภายุโรปหารือและลงนามร่วมกัน โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน เพื่อยุติการนำเข้าก๊าซจากประเทศที่เคยเป็นผู้จัดหาส่วนใหญ่ของยุโรปก่อนเกิดสงครามในยูเครนเมื่อปี 2565
ตามกรอบข้อตกลง สหภาพยุโรปจะยุติการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG จากรัสเซียภายในสิ้นปี 2569 และจะยุติก๊าซที่ส่งผ่านท่อทั้งหมดภายในสิ้นเดือนกันยายน 2570 พร้อมกันนี้ยุโรปยังตั้งเป้าขยายมาตรการไปสู่การยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียด้วย เพื่อจำกัดรายได้ที่สนับสนุนการทำสงครามของมอสโก เออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า การเดินหน้าแผนดังกล่าวจะช่วยทำให้ทุนสงครามของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินลดลง พร้อมย้ำว่ายุโรปยังยืนหยัดเคียงข้างยูเครน และมุ่งค้นหาความร่วมมือด้านพลังงานรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืนกว่าเดิม
แม้การนำเข้าก๊าซจากรัสเซียจะถูกลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 45% ก่อนสงครามยูเครน เหลือเพียง 12% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่หลายประเทศในสหภาพยุโรป เช่น ฮังการี ฝรั่งเศส และเบลเยียม ยังคงมีการรับก๊าซจากรัสเซียอยู่บางส่วน ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการยุโรปยังเตรียมเดินหน้ายุติสัญญานำเข้าน้ำมันที่ยังเหลืออยู่ภายในปี 2570 โดยจะนำเสนอร่างกฎหมายชุดใหม่ในช่วงต้นปีหน้า
ภายใต้ข้อตกลงที่เพิ่งสรุป สมาชิกสหภาพยุโรปแต่ละประเทศจะต้องจัดทำ “แผนการกระจายแหล่งพลังงานแห่งชาติ” สำหรับการจัดหาน้ำมันและก๊าซ แล้วส่งให้คณะกรรมาธิการยุโรปภายในวันที่ 1 มีนาคม 2569 นอกจากนี้ยังต้องแจ้งอย่างชัดเจนว่ามีสัญญาซื้อก๊าซจากรัสเซียอยู่หรือไม่ รวมถึงมีมาตรการห้ามการนำเข้าในระดับประเทศอย่างไรบ้าง เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเกิดขึ้นอย่างโปร่งใสและเป็นระบบ

