นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ เดินทางเข้ากระทรวงคมนาคมวันแรกตามฤกษ์เวลา 08.19 น. โดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ซึ่งต่างมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี

นายพิพัฒน์กล่าวว่า ภารกิจหลักคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการ รวมถึงการเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และเท่าเทียม โดยย้ำว่าพร้อมทำงานร่วมกับรัฐมนตรีช่วย ผู้บริหาร และรัฐวิสาหกิจในสังกัด เพื่อผลักดันนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลเป็นรูปธรรม แม้จะมีเวลาเพียง 4 เดือนก่อนการยุบสภา

ประเด็นที่สังคมจับตาคือโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งมาตรการเดิมสิ้นสุดเดือนกันยายน 2569 แต่เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล จำเป็นต้องพิจารณาใหม่ว่าควรเดินหน้าต่อหรือไม่ เนื่องจากโครงการดังกล่าวใช้งบชดเชยจากรัฐเกือบ 20,000 ล้านบาทต่อปี นายพิพัฒน์ย้ำว่าต้องทำความเข้าใจอย่างรอบคอบ และจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1–2 สัปดาห์หลังจากนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบาย และยืนยันว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ค่าโดยสารจะกลับไปใช้ราคาเดิมก่อน

นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว นายพิพัฒน์ยังกล่าวถึงกรณีพิพาทพื้นที่เขากระโดง โดยยืนยันว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยจะดำเนินการฟ้องร้องครอบครองที่ดิน 995 แปลงตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีการเอื้อประโยชน์ทางการเมือง พร้อมระบุว่านโยบายอื่นๆ เช่น โครงการแลนด์บริดจ์ รถไฟทางคู่ และโครงการบ้านเพื่อคนไทย จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการหลังนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายในสภา

ด้านนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจที่ได้ร่วมทำงาน พร้อมเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น