วันที่ 14 สิงหาคม 2568 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ หลังไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนบรรลุข้อตกลงเพิ่มด่านนำเข้า–ส่งออกผลไม้รวม 5 แห่ง ภายใต้พิธีสารขนส่งผลไม้ผ่านประเทศที่สาม เพื่อแก้ปัญหาความแออัด ลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มช่องทางกระจายผลไม้ไทยสู่มณฑลต่าง ๆ ของจีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึงมากขึ้น ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นท่ามกลางตัวเลขการส่งออกผลไม้สดไทยไปจีนในปี 2567 ที่สูงกว่า 1.8 แสนล้านบาท และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ทั้งสองประเทศได้เห็นชอบปรับปรุงภาคผนวกของพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการกักกันโรคและตรวจสอบผลไม้ที่ขนส่งผ่านประเทศที่สาม โดยเพิ่มด่านนำเข้า–ส่งออกฝั่งไทยอีก 3 แห่ง ได้แก่ ด่านทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยา และด่านภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนฝั่งจีนเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ ด่านเมิ่งคัง และด่านต๋าลั่ว ในมณฑลยูนนาน ทำให้ปัจจุบันไทยมีด่านในพิธีสารรวม 9 แห่ง และจีนมี 12 แห่ง

การขยายด่านครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเปิดเส้นทางขนส่งใหม่ สนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการลดต้นทุน เพิ่มทางเลือกในการขนส่ง และกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลผลไม้ที่มักประสบปัญหาคอขวด การเพิ่มด่านจะช่วยให้ผลไม้สดไทยสามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้รวดเร็ว ครอบคลุมพื้นที่ปลายทางมากขึ้น และเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของผลไม้ไทย

นายชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) อธิบายว่า พิธีสารฉบับนี้ลงนามครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เพื่อกำหนดมาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออก–นำเข้าผลไม้ทางบกผ่านประเทศที่สาม โดยเปิดโอกาสให้เพิ่มด่านใหม่ได้หากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน การประกาศเพิ่มด่านในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าเกษตรไทยและขยายตลาดผลไม้ในจีนได้อย่างยั่งยืน