ท่ามกลางแนวโน้มความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก สหรัฐอเมริกาได้เดินหน้าผลักดันความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับประเทศไทย โดยล่าสุด นายไมค์ ดันเลวี ผู้ว่าการรัฐอะแลสกา ได้นำคณะผู้แทนภาคเอกชนด้านพลังงานเข้าพบ นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงานของไทย พร้อมผู้แทนจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)
ในการหารือครั้งนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ ได้นำเสนอข้อริเริ่มของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการผลักดันโครงการ “Alaska LNG” ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจและผลิตก๊าซ การสร้างท่อส่งจากแหล่งผลิตไปยังโรงแปรสภาพก๊าซ การจัดตั้งโรงงานแปรรูป และโครงสร้างพื้นฐานรองรับการส่งออก LNG จากอะแลสกาไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยมีไทยเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญที่ถูกเชิญให้ร่วมลงทุนและรับซื้อก๊าซในอนาคต
ฝ่ายไทยได้แสดงความสนใจอย่างชัดเจนในการเข้าร่วมพัฒนาโครงการนี้ โดยมองว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเสริมความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศ รองรับการใช้ LNG ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภาคอุตสาหกรรม และเปิดโอกาสสำคัญให้ไทยก้าวขึ้นเป็น “LNG Hub” แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ข้อมูลจาก Shell LNG Outlook 2025 คาดการณ์ว่า ความต้องการ LNG ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 60% ภายในปี 2040 โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการเติบโตของเศรษฐกิจในเอเชีย และการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้สอดรับกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมหนัก การขนส่ง และการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI ซึ่งต้องการพลังงานมหาศาล
ในขณะที่อุปทาน LNG ทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 170 ล้านตันภายในปี 2030 แต่หลายโครงการใหม่ยังอยู่ในขั้นไม่แน่นอน การที่ไทยจับมือกับสหรัฐฯ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของโครงการ จึงถือเป็นการเตรียมความพร้อมเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งในแง่ของการเข้าถึงแหล่งพลังงานที่มั่นคงและราคาที่แข่งขันได้
นอกจากนี้ LNG ยังถูกมองว่าเป็น "transition fuel" หรือพลังงานทางผ่านที่สำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ตามแผนด้านสภาพภูมิอากาศที่วางไว้ในระยะยาว
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศจะเดินหน้าหารือในรายละเอียด เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมในการพัฒนา LNG ร่วมกันในอนาคต ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของไทยในเวทีพลังงานระดับโลก
ที่มา - bangkokbiznews