ไทยพร้อมแค่ไหนรับมือมาตรการ EUDR เมื่ออียูเตรียมแบนสินค้าเข้าข่ายทำลายป่า

การส่งออกสินค้าเกษตรไทยภายใต้กฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EUDR (EU Deforestation Regulation) ของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งได้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 และจะมีผลในทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2567

มาตรการ EUDR ครอบคลุม 7 กลุ่มสินค้า คือ โกโก้ กาแฟ ถั่วเหลือง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน โค และไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปของสินค้าเหล่านี้ โดยในปี 2565 ไทยมีการส่งออกสินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการ EUDR ไปอียู รวมมูลค่า 724.73 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.34 จากปีก่อนหน้า เรียงตามมูลค่าการส่งออกสูงสุด ดังนี้

(1) ยางพารา 657.02 ล้านเหรียญสหรัฐ

(2) ไม้ 43.11 ล้านเหรียญสหรัฐ

(3) ปาล์มน้ำมัน 21.39 ล้านเหรียญสหรัฐ

(4) โกโก้ 2.89 ล้านเหรียญสหรัฐ

(5) กาแฟ 0.32 ล้านเหรียญสหรัฐ

(6) ถั่วเหลือง 0.002 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนโคเป็นสินค้าที่ไทยไม่มีการส่งออกไปอียู (จัดกลุ่มสินค้าตามพิกัดศุลกากรที่ระบุใน Regulation (EU) 2023/1115)

อียูถือเป็นผู้นำและเป็นต้นแบบของโลกด้านการปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ซึ่งการออกกฎหมายของอียู จะเป็นตัวอย่างให้หลายๆ ประเทศออกกฎหมายในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยต้องเตรียมพร้อมรับมือกับกฎหมายกฎระเบียบใหม่ๆ เพื่อรักษาตลาดและแสวงหาโอกาสได้ทันท่วงที

Cr: salika