"ภาคขนส่ง" ขอพบนายกฯ ฟังนโยบายดูแลพลังงาน หลัง "กองทุนน้ำมัน" ติดลบกว่าแสนล้าน หวังเป็นแนวทางการกำหนดราคากับผู้จ้างงาน ระบุ "ดีเซล" ปรับขึ้น 1 บาท กระทบต้นทุน 3% ทันที

เหตุผลสำคัญของการปรับเพดานราคาดีเซลในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 14 เม.ย.2567 ติดลบ 103,620 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน ติดลบ 56,407 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 47,213 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับการติดลบสูงที่สุดของรัฐบาล "เศรษฐา ทวีสิน" นับตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ 7 เดือน

 

"ตอนนี้ก็มีการเจรจากับผู้ว่าจ้างแล้วว่าราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นซึ่งผู้จ้างก็ขอให้เราคงราคาค่าขนส่งไปก่อน เขาจะมีปัญหาเรื่องตลาดอีก หากขึ้นแล้วก็จะไปสู้รายอื่นไม่ได้ มันโยงกันหมดเป็นลูกโซ่เป็นทอดๆ ยอมรับว่าทุกวันนี้การทำธุรกิจก็ต้องแข่งขัน จริงๆ ผู้ประกอบการหลักๆ ที่ยังอยู่ได้ เพราะพื้นฐานเก่าเขาดีอยู่ แต่ถ้าพื้นฐานไม่ดีจริงก็เลิกไปเยอะ โดยปัจจุบันนี้มีการเลิกกิจการไปไม่ต่ำกว่า 30%"

ดังนั้น การที่รัฐบาลปรับราคาน้ำมันจริง ๆ 1 บาท ภาคขนส่งก็จำเป็นจะต้องขึ้น 3% ดังนั้นจึงต้องขอคุยกับภาครัฐก่อนถึงนโยบาย เพื่ออธิบายกับผู้ว่าจ้างตามความเป็นจริง ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับทางนายกฯ อยู่ คาดว่าภายในเดือนนี้น่าจะได้หารือกับรัฐบาล ยืนยันว่าจะไม่ไปประท้วง เพราะที่ผ่านมาไม่เห็นผลอะไร และเสียเงินเป็นแสนๆ จึงจะไปในลักษณะตัวแทนของ 10 สมาคมฯ มากกว่า

Cr: bangkokbiznews