นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องการแก้ไขภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาทไม่ต้องเสียภาษี ว่า ต้องทบทวนอย่างรอบด้านและประเมินผลกระทบกับผู้ประกอบการไทย และเศรษฐกิจไทยในแต่ละภาคส่วนร่วมด้วย โดยต้องดำเนินการมาตรการอื่นร่วมด้วย
ทั้งนี้ ในการประชุมกับกระทรวงพาณิชย์ สมาพันธ์ฯได้นำเสนอ 2 เรื่อง คือ เรื่องแรกอุปสรรคและแนวทางการแก้ไขปัญหาสินค้าจีนทะลักไทย 6 ด้าน ประกอบด้วย
· การเจรจาข้อตกลงทางการค้าไทย-จีน และการส่งเสริมการลงทุน (FTA & BOI) กล่าวคือ ควรทบทวนอัตราภาษีนำเข้ารายกลุ่มสินค้าที่ไทยเสียเปรียบ
· การบังคับใช้กฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจการค้ากับนักธุรกิจจีนหรือนอมินีให้ทำการค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งการลักลอบนำเข้าสินค้าจากจีนที่ผิดกฎหมาย หลบเลี่ยงภาษี
· การส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจและเกษตรกรไทยลดการนำเข้าจากจีน เน้นเศรษฐกิจพึ่งพาตนเอง ผลิตเพื่อใช้เองทดแทนนำเข้า ส่งออกส่วนเกินมลดการขาดดุลทางการค้า
· ส่งเสริมสินค้าไทยสร้างนวัตกรรมและแบรนด์เจาะตลาดออนไลน์จีน เพื่อขยายการเติบโตการค้าออนไลน์กับจีน และใช้กฎหมายบังคับธุรกิจออนไลน์ที่ดำเนินธุรกิจในไทยต้องจดทะเบียนและเสียภาษีอย่างถูกต้อง
· การบังคับใช้มาตรฐานสินค้าและการกำกับตรวจจับดำเนินคดีให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเท่าเทียมกัน
· จัดตั้งองค์กร Public Private Partnership ขับเคลื่อนความร่วมมือรัฐเช่น องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย (อต.) , องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) และเอกชน รุกรวมซื้อรวมขายสินค้าเกษตร OTOP SME เป็นต้น
โดยมีช่องทางสิทธิประโยชน์ในการบ่มเพาะพัฒนา เพิ่มขีดความสามารถ ทักษะ สมรรถนะแรงงานที่มีคุณค่าความสร้างสรรค์ตอบสนองต่อทิศทางตลาดแรงงานร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้เกิด Workforce credit scoring แก้ไขปัญหาค่าแรงงานเกิดความเป็นธรรม
Cr: thansettakij