รัฐบาลดัน NSW เชื่อมระบบนำเข้า - ส่งออก ไทยให้ได้ 100% ในปีนี้ หลังสถานะล่าสุดเชื่อมต่อได้มากกว่า 99% "สมศักดิ์" สั่งตั้งคณะทำงานปรับปรุงกระบวนการให้บริการ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เร่งปรับปรุงการขนส่งทางน้ำให้มีประสิทธืภาพมากขึ้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเร็วนี้ๆ ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.)ที่มีนายสมศักดิ์  เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณากำหนดนโยบายการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประตูการค้าที่สำคัญและศูนย์กลางขนส่งของภูมิภาค (Logistic Hub) ตามนโยบายของรัฐบาล

 

 โดยให้ความสำคัญกับการขนส่งทางรางให้เป็นโครงการข่ายหลักในการขนส่งสินค้า รวมถึงใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่โดยเฉพาะท่าเรือโดยการส่งเสริมให้เป็นท่าเรือถ่ายลำ (Transshipment Port) และการผลักดันการใช้งานระบบ National Single Window (NSW) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขนส่งในการนำเข้า ส่งออก และนำผ่านสินค้า และสามารถลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศลงได้

 

ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติรับทราบสถานะการใช้งานระบบ NSW ที่ปัจจุบันมีธุรกรรมที่ให้บริการผ่านระบบ NSW แล้วคิดเป็น 99.36% ของกระบวนงานทั้งหมดในการนำเข้าและส่งออก คาดว่าจะสามารถใช้งานกระบวนงานทั้งหมดได้ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

 

 รวมถึงรับทราบสัดส่วนต้นทุนโลจิสติกส์ต่อ GDP โดยในปี 2565 ที่13.7% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่13.9% และการยกเลิกการบังคับให้เรือชายฝั่งที่รับตู้สินค้าขาเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบังต้องบรรทุกตู้สินค้าลงเรือที่ท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) เท่านั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ขนส่งเรือชายฝั่งที่สามารถรับตู้สินค้าได้ที่ท่าเทียบเรืออื่น ๆ ภายในท่าเรือแหลมฉบัง

Cr: bangkokbiznews